เสริมธาตุเหล็ก ให้ลูกเมื่อพาลูกอายุ 6 เดือนไปฉีดวัคซีน ที่โรงพยาบาล ทางคุณหมอ ท่านก็ได้จัดยา เสริมธาตุเหล็กให้ลูกมา 1 ขวด และ บอกว่าให้ลูกทานครั้งละ 0.3 ml สัปดาห์ละ 1 ครั้งเลยเกิดความสงสัยว่า มีปัจจัยอะไรบ้างในการ ขาดธาตุเหล็กในเด็ก ทารก และ การับประทานยากินอย่างไร เลยหาจข้อมูลแล้วมาเขียนให้อ่านกัน
การรับประทานยาเสริมธาตุเหล็กในเด็กทารก โดยจะให้ทานครั้งละ 0.3 ml โดยการเอาไปผสมกับน้ำ น้ำผลไม้ หรือ อาหารเสริมเด็ก โดยทาง IndyDiary.com ก็ได้รับยาตัวนี้ตอนลูกอายุ 6 เดือนพอดี ซึ่งเป็นเดือนที่เพิ่งเริ่มทานอาหารเสริมแล้ว
คำแนะนำในการใช้ยา เสริมธาตุเหล็ก
โดยคำแนะนำในการให้ยาเสริมธาตุเหล็กแก่ลูกน้อย พอจะอธิบายได้ดังนี้
- ให้ยาเสริมธาตุเหล็ก ครั้งละ 3 ml อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
- โดยสามารถผสมในน้ำผลไม่ น้ำ หรือ อาหารเสริมได้
- ควรให้ยาเสริมธาตุเหล็กหลังจากลูกกินนมไปแล้ว 2 ชั่วโมง
- ให้ยาเสริมธาตุเหล็กแก่เด็ก เพื่อป้องกันขาดธาตุเหล็ก โลหิตจาง
เสริมธาตุเหล็ก แล้ว ภาวะขาดธาตุเหล็กมีอะไรบ้าง
เนื่องจากเกิดข้อสงสัยว่าให้ลูกเสรืมธาตุเหล็ก อาทิตย์ละครั้ง เลยไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมาว่า ภาวะขาดธาตุเหล็กของลูกมีอะไรบ้าง โดยการไปหาข้อมูลพบว่า หลังลูกอายุ 6 เดือน ธาตุเหล็กในนมแม่จะลดลง เลยต้องเสริมธาตุเหล็กกัน อ่านเพิ่มเติมเรื่อง พัฒนาการลูกวัย 6 เดือน คลิก พัฒนาการ ทารก 6 เดือน
ภาวะซีดเป็นอาการสำคัญที่สุดของภาวะขาดธาตุเหล็ก โดยการขาดธาตุเหล็กในระยะแรกอาจจะยังไม่พบอาการซีดหรือความผิดปกติใด ๆ ในเด็กบางรายอาจจะมีอาการอยากรับประทานอาหารแปลก ๆ (pica) เช่น อยากรับประทานดิน แป้ง สี เป็นต้น ถ้าขาดธาตุเหล็กมากขึ้นและนานขึ้น จะพบอาการซีด ลิ้นเลี่ยน (glossitis) (ภาพที่ 1) ทำให้รับประทานไม่อร่อย เนื่องจากการรับรสผิดปกติ มุมปากเป็นแผล (stomatitis) เล็บเป็นรูปช้อน (koilonychias of nail) (ภาพที่ 2) นอกจากนี้ยังมีอาการผิดปกติทางสมอง และพฤติกรรม เช่น ซึม ไม่ร่าเริง อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม บางรายมีอาการหงุดหงิด ไม่อยากรับประทานอาหาร และถ้ามีอาการซีดมากขึ้น จนร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้ จะมีอาการหัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น หอบเหนื่อย และมีภาวะหัวใจโตและหัวใจวายตามมาได้
การป้องกันการขาดธาตุเหล็กในทารก
- การป้องกันการขาดธาตุเหล็กในทารก
- ทารกที่ดื่มนมแม่อย่างเดียวในช่วง 4 เดือนแรก จึงจำเป็นต้องเสริมธาตุเหล็ก โดยอาหารเสริมที่มีธาตุเหล็กเพิ่มขึ้น เช่น น้ำซุปที่ทำจากเนื้อสัตว์ ตับ หรือผักใบเขียว
- ให้ทานวิตามินที่มีธาตุเหล็ก
- การดื่มนมผงที่มีธาตุเหล็กผสม (fortified milk)
- ให้คำแนะนำเรื่องอาหาร ในกรณีที่ดื่มนมถั่ว เนื่องจากนมถั่วมี Phytate มากเกินไปจะขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กในทารก
- การดื่มนมกล่องที่เป็นนมวัวแท้ๆ (UHT) มีธาตุเหล็กน้อย และไม่เหมาะสมสำหรับเด็กที่ต้องการธาตุเหล็ก
รวมอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง
- อาหารทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า หอยนางรม เป็นต้น โดยการรับประทานอาหารทะเลหรือปลาที่มีไขมันสูงสัปดาห์ละ 3 ครั้ง จะช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางได้
- ถั่ว ถั่วพิสตาชิโอนั้นเป็นแหล่งของธาตุเหล็กที่ดีที่สุด เพราะมีปริมาณของธาตุเหล็ก 14 มิลลิกรัม ต่อถั่ว 100 กรัม มากกว่าอัลมอนด์ถึงเกือบ 4 เท่า แต่ก็เป็นถั่วที่มีราคาค่อนข้างสูงเช่นกัน
- น้ำมะเขือเทศ มีวิตามินหลากชนิด ทานแล้วยังช่วยให้ลูกผิวพรรณดี และที่สำคัญยังมีธาตุเหล็กอีกด้วย
- พืชตระกูลถั่ว โดยถั่ว 1 ถ้วย ขนาด 198 กรัม จะมีธาตุเหล็กอยู่ที่ 6.6 มิลลิกรัม และถั่วยังอุดมไปด้วยโฟเลต แมคนีเซียม และโพแทสเซียม
- ดาร์กช็อกโกแลต เด็ก ๆ ส่วนมากชอบทานช็อกโกแลต แต่ถ้าจะให้ดีควรให้ทาน ดาร์กช็อกโกแลต เพราะดาร์กช็อกโกแลต 85 กรัม จะมีธาตุเหล็กถึง 6.82 มิลลิกรัม