ฮวงจุ้ยร้านค้า ปัจจุบันธุรกิจ และ การค้ามีการแข่งขันที่สูงมาก ใครที่ไม่พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาก็มักอยู่รอดยาก ทั้งนี้การที่ร้านค้าสักร้านจะประสบความสำเร็จได้นั้นประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่างมากมาย ซึ่งหนึ่งในปัจจัยเหล่านั้นก็มีเรื่องของฮวงจุ้ยร้านค้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ฮวงจุ้ย เป็นศาสตร์ความรู้แขนงหนึ่งของจีน มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นการศึกษาสภาพแวดล้อม ว่าด้วยเรื่องชัยภูมิ ทิศทางลม กระแสพลังงาน น้ำ อากาศ ฯลฯ แล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อทำการจัดวางฮวงจุ้ยให้เหมาะสม เพื่อเสริมพลังให้กับบ้าน ที่ทำงาน หรือ ร้านค้า ซึ่งเชื่อกันว่า หากจัดบ้าน จัดโต๊ะทำงาน หรือ จัดร้านขายของตามหลักการของฮวงจุ้ยแล้ว จะนำมาซึ่งความสุข ความมั่งคั่ง และ ความเจริญในหน้าที่การงาน
ฮวงจุ้ยร้านค้า ป้ายดักทรัพย์
ต้องดูว่าป้ายที่เราใช้ เป็นป้ายอย่างไรเมื่อลูกค้าเห็นจะรู้สึกเด่น สะดุดตา บางคนใช้ป้ายไฟ ห้ามให้มีไฟดับ เพราะอาจทำให้มีอุปสรรคด้านการเงิน และ ชื่อเสียง อาจมีการพูดถึงร้านในทางเสียหายได้ เมื่อเราผ่านหน้าร้าน ป้ายร้านขนานกับถนนเกินไป หรือ เปล่า เราควรมีป้ายเป็นแนวขวาง เมื่อผ่านร้านจะมองเห็นชัดเจนโดดเด่น มีความสมบูรณ์ของป้าย 100% ไม่แตกหัก หรือ ชำรุด อาจเป็นได้ในทางทำลาย หรือ พิฆาตได้ หากทำตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ลูกค้าจะเข้ามามาก ต้องให้ความสำคัญกับการมีสินค้าที่ดี พูดจาดี บริการดี เพื่อให้รักษาลูกค้า เมื่อจัดร้านตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ต้งมีการเตรียมความพร้อมในการรักษาลูกค้าไว้ด้วย
ประตูมังกร
ประตูของร้านที่เราจะเปิดรับลูกค้า เป็นประตูที่อยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง องศาที่ถูกต้อง มีขนาดพอเหมาะกับตัวร้าน เช่น ประตูร้านใหญ่กว้างขวาง แต่ประตูเล็ก ก็ไม่เหมาะสมกับร้าน เมื่อเข้าไปแล้วรู้สึกสบายดี ก็จะดึงดูดทรัพย์ได้เหมือนกัน เช็คได้จากความรู้สึกตัวเอง ด้วยการลองเดินเข้าไปแล้วเช็คความรู้สึก ว่าเรารู้สึกอึดอัด หรือ ผ่อนคลาย บาทีอาจใช้วิธีการดูจากดวงผู้เป็นเจ้าของว่าหันหน้าประตูออกถูกทิศทาง หรือ ไม่ อาจเป็นการเปิดรับพลังงานที่ไม่ถูกต้อง ได้เสริมทั้งดวงกิจการ และ เสริมทั้งคนที่เป็นเจ้าของด้วย อยู่แล้วรวย อยู่แล้วเปิดรับโชค รับทรัพย์
ฮวงจุ้ยร้านค้า โต๊ะเก็บเงินเรียกทรัพย์
โต๊ะแคชเชียร์เรียกทรัพย์ จะไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาในองค์กร เช่น อาจมีเงินเยอะ แต่มีปัญหา ค่าใช้จ่ายเยอะ ลูกน้องโกง ตรงนี้ต้องดูในข้อที่ 2 ซึ่งเป็นประตู ว่าเป็นประตูมังกร หรือ ไม่ เก๊ะเรียกทรัพย์ หมายความว่า จะมีเงินโชคลาภเข้ามาเรื่อยๆ หรือ มีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ แต่ปัญหาต้องพิจรณาแก้ไขจุดที่แตกต่างกัน
ตำแหน่งที่ตั้งเก๊ะเงิน โต๊ะเก็บเงิน โต๊ะทำงาน ควรอยู่ในทิศทางที่เฉียงกับประตูไม่ตรงกับประตูซะทีเดียว บางตำราอาจบอกให้ตั้งตำแหน่งซ้ายในจุดซึ่งเป็นตำแหน่งขุมทรัพย์ หากต้องการความแน่นอนที่มากกว่าแพทเทิร์นมาตรฐาน ควรดูจากดวงของเจ้าของร้าน จะแน่นอนที่สุด
- โต๊ะเก็บเงินไม่ควรอย่างยิ่งที่จะตั้งอยู่ใต้บันได หรือ ห้ามมีคานพาดศรีษะคนนั่งเก็บเงิน จะทำให้เกิดพลังงานกดทับ อาจทำให้นึกวิธีการบริหารร้านไม่ออก หรือ ธุรกิจเกิดความกดดัน ธุรกิจอาจทรุดลง ฮวงจุ้ยที่ไม่ดีนี้แก้ได้ด้วยการตกแต่งเดคูเรทไม่ให้เป็นบันได หรือ มองดูไม่เป็นบันได แต่ห้ามต่ำเกินไป
- โต๊ะแคชเชียร์ อาจมีของมงคลเล็กน้อย เช่น แมวกวักที่เคลื่อนไหวได้ เพื่อเป็นพลังงานหยางเคลื่อนไหว หรือ เป็นโมบายกรุ้งกริ้ง ก็เป็นการกระตุ้นการเรียกทรัพย์ได้เหมือนกัน ในลิ้นชักอาจมี เหรียญมงคล หรือ แบ้งมงคลเรียกทรัพย์ คางคกคาบเหรียญ หรือ ปี่เซี้ยะใส่ไว้ในลิ้นชักเพื่อเป็นมงคลเรียกทรัพย์ได้
- บนโต๊ะเก็บเงินไม่ควรมีอะไรวางอยู่รก ควรโล่ง อาจวางของได้ด้านข้าง ควรมองเห็นคนเก็บเงินชัดเจน มิเช่นนั้นอาจทำให้ลูกค้าน้อยลงเพราะมองไม่เห็นคนขาย หรือ มีการปิดบัง หรือ มีการโกงจากพนักงานเก็บเงินได้ หรืออาจใช้สีช่วยในการเรียกทรัพย์ได้ด้วยสีแดง
ชั้นวางของ
จัดแล้วดูเด่นมองเห็นชัดเจนเพื่อดึงดูดลูกค้าที่เข้ามาประจำ จัดวางสินค้าที่ขายดีบน ชั้นเหล็กวางของ ให้อยู่ในระดับสายตา ทำให้สินค้าขายดี ติดตั้งมองเห็นเด่นชัด มีแสงสว่างเพียงพอ อาจจะจัดเป็นมุมโชว์โปรโมทเล็กๆแบบพิเศษ และ แสดงสินค้า ถ้าจะให้ดีและชัดเจนควรวางด้านขวา จะช่วยได้อีกทางหนึ่ง โฟกัสเน้นของที่ตั้งใจจะขาย จะเป็นตำแหน่งที่ดี
ฮวงจุ้ยร้านค้า หลอดไฟมงคล
การมีไฟสว่างสวยงาม และ มองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน สวยงาม เช่นหากขายผลไม้ อาจใช้ไฟสีเหลืองนวล หรือ ขายของทั่วไป ใช้สีที่สว่างชัดเจน มองเห็นสินค้าได้ชัดเจน จำนวนของไฟ ควรเปิดให้สว่างทั่วถึง โดยเฉพาะตรงที่ต้องการโฟกัส สินค้าจะขายดีควรจัดไฟให้สว่างชัดเจนทั่วถึงจึงดีที่สุด ไฟฟ้า เเสงสว่างเป็นพลังงานหยางเรียกความเจริญรุ่งเรือง
เคล็ดลับการปรับฮวงจุ้ยร้าน
- เลือกทิศหน้าร้านที่อากาศถ่ายเท ภายในร้านโปร่ง สูง โล่ง
- มีแสงสว่างกำลังดีในตอนกลางวัน เพื่อช่วยให้ร้านร่มรื่น และ มีอุณภูมิพอเหมาะ
- ร้านค้าที่ตั้งติดถนน ถือเป็นทำเลทอง เพราะลูกค้าสามารถเห็นร้านได้ง่าย หน้าร้านจึงควรจะสะอาด ไม่มีขยะที่ส่งกลิ่นเหม็น และ ที่สำคัญไม่ควรมีเสาไฟ หรือ ท่อระบายน้ำบังหน้าร้าน เพราะเชื่อกันว่าทั้งสองสิ่งจะพาเงินทองไหลลงท่อไปหมด
- ตามความเชื่อของจีน ป้ายร้านไม่ควรมีเกิน 5 สี และ จำนวนสีควรเป็นเลขคี่ 1, 3, 5 โดยป้ายร้าน 1 สี จะทำให้ร้านพออยู่สบาย ขายได้เรื่อย ๆ และ ป้ายร้าน 3 สี จะช่วยให้ร้านรุ่ง ขายดี ส่วนป้ายร้าน 5 สี เชื่อกันว่าจะมั่งคั่ง ร่ำรวย เติบโตเป็นร้านใหญ่ได้เลยทีเดียว
- การตั้งป้ายหน้าร้านให้สะดุดตา ช่วยเรียกลูกค้าที่ผ่านไปผ่านมาให้เข้ามาไม่ขาดสาย ขนาดของป้ายไม่สำคัญ ขอแค่เหมาะสมกับขนาดพื้นที่บริเวณหน้าร้าน และ วางไว้ในทิศทางเดียวกับที่ลูกค้าจะเดินผ่าน ส่วนป้ายโฆษณาควรบอกทางเข้าร้านด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า
- บริเวณหน้าร้าน ควรปลูกดอกไม้สีสวย ๆ เพิ่มสีสัน หรือ วางน้ำพุไว้ เพราะตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว การมีสิ่งที่เคลื่อนไหวตลอดเวลาอย่างน้ำ จะเป็นพลังกระตุ้นให้ร้านมีชีวิตชีวา ช่วยให้เงินไหลเข้า
เครื่องรางมงคลเสริมโชคลาภ
เครื่องรางมงคลที่นำมาบูชาเพื่อคุ้มครอง และ เสริมความเฮงให้กับร้านค้ากิจการนั้น มีอยู่หลากหลายมามายเราสามารถเลือกมาบูชาตามความเชื่อความศรัทธาของแต่ละบุคคล
- พระสังกัจจายน์ เป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ และ โชคลาภ โดยมีเคล็ดว่าให้บูชาด้วยธูปสามดอก และ ดอกไม้หอมชนิดใดก็ได้จำนวนเจ็ดดอก
- ปี่เซียะ เชื่อว่ามีพลังเรียกทรัพย์ให้ไหลมาเทมา ป้องกันสิ่งชั่วร้าย มีเคล็ดว่าห้ามลูบบริเวณปากของปี่เซี่ยะเพราะจะทำให้เงินรั่วไหลออกได้
- นางกวัก เชื่อว่าจะช่วยกวักเงิน กวักทอง กวักเรียกลูกค้าให้หลั่งไหลเข้าร้าน บูชาด้วยดอกไม้แดง และ อาหารคาวหวาน
การมีเครื่องรางมงคลที่มากเกินไปในร้าน อาจส่งผลให้พลังหยิน และ หยางไม่สมดุล ส่งผลเสียมากกว่าดี จึงควรเลือกมาให้พอดี หมั่นดูแลให้สะอาด สมบูรณ์อยู่เสมอ การจัดวางควรหันหน้าออกไปนอกร้าน และ ไม่ควรวางไว้เหนือประตูเข้าออก พิงผนังห้องน้ำหรือใต้คาน เพราะเชื่อว่าจะทำให้สิ่งศักสิทธิ์นั้นขาดพลัง
การจะประสบความสำเร็จในธุรกิจ ร่ำรวยขึ้นมาได้ ต้องอาศัยปัจจัยความสำเร็จหลายๆ อย่างประกอบกัน คาดหวังกับโชคชะตา ปาฏิหาริย์ เพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ แต่หากเถ้าแก่ใหม่ลองนำหลักฮวงจุ้ยที่บทความนี้เสนอไปปรับใช้ในกิจการเชื่อได้เลยว่าจะมีลูกค้าแวะเวียนเข้าร้านอย่างไม่ขาดสาย แต่การจะมัดใจให้คนที่แวะเข้ามากลายเป็นลูกค้าประจำ กลับมาใช้บริการซ้ำสม่ำเสมอหรือไม่นั้น ก็ขึ้นกับสินค้า และ บริการของร้านแล้ว