วิตามินซีกินแก้หวัด กินแก้ภูมิแพ้ ซึ่งโรคหวัด และ โรคภูมิแพ้ เป็นโรคยอดฮิตของคนเมืองในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หรือ ฝุ่น ควัน จาก PM2.5 ดังนั้นคนที่เป็นหวัด หรือ ภูมิแพ้ง่ายๆ ก็จะมีอาการระคายเคืองจมูก และทำให้เป็นหวัดคัดจมูกได้ง่ายๆ คงไม่ดีแน่หากต้องป่วยในช่วงที่ต้องทำงานอะไรที่สำคัญ มาป้องกันตัวเองดีกว่ากับการกินวิตามินซี อาหารเสริม เพื่อป้องกันการเป็นหวัด เราจึงอยากแนะนำวิตามินซี ซึ่งมีคุณประโยชน์มากกว่าการป้องกันหวัด จะมีอะไรบ้างมาลองอ่านรายละเอียดกัน
การป้องกันแค่ภายนอกอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ จะดีกว่าไหมหากมีตัวช่วยที่ดีเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้กับบุตรหลานของคุณให้ไม่ต้องป่วยบ่อย
ซึ่งในบทความที่แล้วทางอินดี้ได้เขียนอธิบายเกี่ยวกับ RHINOCORT AQUA 64 กรณีที่เป็นภูมิแพ้หนักๆ การใช้ยาช่วยอย่าง RHINOCORT AQUA 64 ก็ช่วยลดอาการภูมิแพ้ลงได้เช่นกัน สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ ลดอาการภูมิแพ้ RHINOCORT AQUA 64
ทำไม วิตามินซี แก้หวัด ภูมิแพ้ ได้
วิตามินซี ได้รับการยอมรับ และ ยกย่องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่า เป็นวิตามินที่จำเป็นที่สุดชนิดหนึ่งที่ร่างกายควรจะได้รับในปริมาณที่เพียงพอ มีประโยชน์ในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายทำให้ไม่ป่วยบ่อย เพราะมีส่วนช่วยให้เม็ดเลือดขาวแข็งแรงขึ้นทำให้สามารถต่อสู้ และ กำจัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังป้องกันโรคหวัด โรคภูมิแพ้ และ ต่อต้านอนุมูลอิสระได้ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมวิตามินซีจึงจำสำหรับการป้องกัน หวัด และ ภูมิแพ้
แต่เนื่องจากร่างกายของเราไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีขึ้นเองได้ จำเป็นต้องได้รับเข้าสู่ร่างกายจากการทานผักผลไม้ และ อาหารที่มีวิตามินซีสูง และ ปริมาณมาก แต่บางครั้งเราไม่สามารถท่านผลไม้ที่มีวิตามินซีได้ทุกวัน ทำให้หลายคนเกิดอาการขาดวิตามินซี ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง เพราะฉะนั้นการเลือกซื้อวิตามินซีในรูปแบบของอาหารเสริม จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน
วิตามินซี แก้หวัด ภูมิแพ้ กับงานวิจัย
งานวิจัยล่าสุดโดยวารสาร The Cochrane Database of Systematic Reviews พบว่า วิตามินซีไม่ได้ช่วยป้องกันโรคหวัด แต่สามารถช่วยให้โรคหวัดหายเร็วขึ้น นอกจากนี้หน่วยคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำเพื่อลดความรุนแรง และ ระยะเวลาของโรคคือ วันละ 1-3 กรัม แต่ควรกินต่อเนื่องกันสักระยะหนึ่ง เพราะหากกินตอนเริ่มเป็นหวัดแล้วจะไม่สามารถช่วยลดความรุนแรง หรือร ะยะเวลาในการเป็นหวัดได้
นอกจากนี้หากต้องการเสริมวิตามินซีควรกินพร้อมอาหาร หรือ หลังอาหารทันทีเพื่อป้องกันการระคายเคืองกระเพาะอาหาร โดยอาจแบ่งกินเช้า และ เย็น หรือ เช้า กลางวัน เย็น ขึ้นอยู่กับปริมาณวิตามินซีที่กินใน 1 วัน โดยวิธีแบ่งกิน หลายครั้งช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินซีได้ดีกว่าการกินในครั้งเดียว
สำหรับปริมาณวิตามินที่ควรได้รับจากอาหารประจำวัน ข้อมูลจากปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับ
คนไทยแนะนำให้ผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไปควรได้รับวิตามินซีจากอาหารวันละ 90 มิลลิกรัม และ ผู้หญิงควรได้รับ
วิตามินซีจากอาหารวันละ 75 มิลลิกรัม
การล้างโพรงจมูกบ่อยๆ ด้วยน้ำเกลือ หรือ Normal saline 0.9% ก็สามารถช่วยบรรเทา อาการหวัด คัดจมูกได้ด้วย และที่สำคัญยังช่วยล้างสิ่งสกปรกของเราออกจากจมูกไปได้อีกด้วย วิธีล้างโพรงจมูก ลดอาการภูมิแพ้
ประโยชน์ของ วิตามินซี แก้หวัด ภูมิแพ้
- ช่วยในการป้องกัน และ สร้างภูมิคุ้มกันโรคหวัด โรคภูมิแพ้
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ และ ลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
- การรับประทานเป็นประจำจะช่วยให้ผิวใส เนียน นุ่มลื่นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง และ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยต่อต้านการสร้างสารไนโตรซามีน ที่เป็นสารก่อมะเร็งได้หลายชนิด
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
- ประโยชน์ของวิตามินซี ช่วยลดความดันเลือด
- ช่วยลดการเกิดเส้นเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
- ช่วยต่อชีวิตให้เซลล์โดยช่วยให้โปรตีนในเซลล์เกาะเกี่ยวกันได้ดีขึ้น
- ช่วยเพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็ก
- เป็นยาระบายตามธรรมชาติ
- เพิ่มประสิทธิภาพของยาที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
- ช่วยลดอาการที่เป็นผลมาจากสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้
- ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัส และ แบคทีเรียหลายชนิด
- ช่วยเร่งให้แผลหลังผ่าตัดหายเร็วยิ่งขึ้น
- ช่วยในการรักษาแผลสด แผลไหม้ให้หายเร็วยิ่งขึ้น
วิตามินซี แก้หวัด ภูมิแพ้ ทานเสริมดีไหม
เนื่องจากในปัจจุบัน มีวิตามินซีเสริมออกมาวางขายมากมาย จึงทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่าจะทานวิตามินซีเสริมดีไหม และ ควรเลือกทานวิตามินซีเสริมอย่างไร ซึ่งก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า ผลิตภัณฑ์วิตามินซีเสริม ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อเสริมบำรุงร่างกายในผู้ที่ขาดวิตามินซีโดยเฉพาะ
โดยได้มีการคำนวณปริมาณของวิตามินซีที่ควรได้รับในแต่ละวันอย่างได้มาตรฐาน และ ส่วนใหญ่จะผ่านการตรวจสอบจาก อย. มาเป็นอย่างดี จึงมั่นใจถึงความปลอดภัยได้เลย
แต่อย่างไรก็ตามในคนปกติควรทานวิตามินซีจากธรรมชาติมากกว่า ยกเว้นผู้ที่กำลังป่วย หรือ ร่างกายขาดวิตามินซีอย่างหนัก จึงจะเลือกทานวิตามินซีในรูปของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนั่นเอ
วิตามินซีเสริมมีกี่รูปแบบ อะไรบ้าง
ในปัจจุบันวิตามินซีเสริมที่ถูกนำออกมาขายในท้องตลาดมีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่งก็ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับผู้คนมากขึ้น และตอบโจทย์ความทันสมัยของยุคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยรูปแบบของวิตามินซีเสริมก็มีทั้งหมด 6 รูปแบบดังนี้
วิตามินซีเสริมแบบเม็ดอม
เป็นวิตามินซีที่จะทานโดยการอมไว้ในปากจนกว่าวิตามินซีจะละลายหมด ส่วนใหญ่จะมีขนาดของวิตามินซีประมาณ 25, 50, 100 และ 500 มิลลิกรัมต่อเม็ด แต่การทานวิตามินซีแบบเม็ดอมบ่อยๆ ก็มีผลเสียต่อสุขภาพฟันได้เหมือนกัน เพราะวิตามินซีมีฤทธิ์เป็นกรด จึงอาจทำลายเคลือบฟันให้บางลงจนเกิดปัญหาฟันกร่อนได้นั่นเอง
วิตามินซีเสริมแบบแคปซูล
วิตามินซีในรูปแบบนี้จะมีทั้งแบบที่เป็นแคปซูลแข็งและแคปซูลนิ่ม โดยมีปริมาณของวิตามินซีที่ 500 มิลลิกรัมต่อแคปซูล แถมสามารถกลืนได้ง่ายและไม่มีรสชาติ จึงเหมาะกับผู้ที่ทานยายากหรือไม่ชอบรสชาติของวิตามินซีได้เป็นอย่างดี
วิตามินซี แก้หวัด ภูมิแพ้ ชนิดเม็ด
วิตามินซีที่มาในรูปแบบเม็ดเหมือนตัวยาทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมให้ทานหลังอาหารเพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารนั่นเอง แต่ก็มักจะมีขนาดใหญ่ทำให้กลืนยาได้ลำบาก จึงไม่ค่อยเหมาะกับผู้ที่ทานยายากมากนัก
วิตามินซีแบบเม็ดเคี้ยว
วิตามินซีที่ออกแบบมาเพื่อเด็กๆ โดยเฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีสีและรสชาติอร่อยน่าทานและมีขนาดของวิตามินซี 30 มิลลิกรัมต่อเม็ด แถมทานง่ายเพียงแค่เคี้ยวจนตัวยาละลายหมดเท่านั้น แต่วิตามินซีแบบนี้ก็มักจะมีปริมาณของน้ำตาลค่อนข้างสูง เมื่อทานมากเกินไปจึงอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและทำให้ฟันผุได้นั่นเอง
วิตามินซี แก้หวัด ภูมิแพ้ แบบชนิดฉีด
วิตามินซีรูปแบบนี้จะใช้โดยการพิจารณาจากแพทย์เท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะใช้กับผู้ที่มีอาการขาดวิตามินซีอย่างหนัก หรือต้องการเสริมวิตามินซีเพื่อบรรเทาอาการของโรคบางชนิดนั่นเอง จึงมักจะไม่ค่อยพบเห็นมากนัก แต่อย่างไรในปัจจุบันก็มีการฉีดวิตามินซีเพื่อผิวขาวเช่นกัน
วิตามินซีแบบเม็ดฟู่
เป็นรูปแบบวิตามินซีที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาการทานวิตามินซีในรูปแบบเม็ดหรือไม่สามารถกลืนเม็ดยาขนาดใหญ่ได้ โดยวิตามินซีในลักษณะนี้ก่อนทานจะนำไปละลายในน้ำก่อน ซึ่งจะเกิดเป็นฟองฟู่ขึ้นมา จากนั้นรอให้ฟองหมดแล้วค่อยๆ ดื่มทีละนิด โดยส่วนใหญ่จะมีขนาดวิตามินซีประมาณ 500 และ 1,000 มิลลิกรัมต่อเม็ดนั่นอง
เมื่อร่างกายขาดวิตามินซีจะเป็นอย่างไร
เพราะร่างกายของคนเรามีความต้องการวิตามินซีอย่างเพียงพอ ดังนั้นหากขาดวิตามินซีจึงมักจะมีผลกระทบต่อสุขภาพเกิดขึ้น ซึ่งอาการที่เห็นได้อย่างชัดเจน ได้แก่
- อ่อนเพลียและรู้สึกเบื่ออาหาร แม้ว่าจะได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ แต่ก็ยังคงรู้สึกขาดความกระปรี้กระเปร่า ไม่สดชื่นและไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเอาเสียเลย ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะตามมาด้วยอาการปวดตามข้อต่อของร่างกาย เจ็บกระดูกและอาการเลือดออกตามไรฟันนั่นเอง
- ติดเชื้อได้ง่าย จึงมักจะมีอาการป่วยบ่อยกว่าปกติ นั่นก็เพราะเมื่อร่างกายขาดวิตามินซีก็จะทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลงไปด้วย เป็นผลให้ร่างกายมีโอกาสที่จะติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรียสูงมาก นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย
- แผลหายช้า ไม่ใช่แค่ผลข้างเคียงของการเป็นโรคเบาหวานเท่านั้น แต่ยังมีสาเหตุมาจากการขาดวิตามินซีอีกด้วย เพราะโดยปกติวิตามินซีจะทำหน้าที่ในการลดการอักเสบและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย จึงทำให้แผลหายเร็ว ดังนั้นเมื่อขาดวิตามินซีบาดแผลที่เกิดขึ้นบนร่างกายจึงมักจะหายช้ากว่าปกติ แม้ว่าจะเป็นบาดแผลเล็กๆ ก็ตาม
- เป็นโรคลักปิดลักเปิด โรคนี้มักจะเกิดกับผู้ที่ขาดวิตามินซีมากที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับวิตามินซีน้อยกว่าวันละ 10 มิลลิกรัม ซึ่งนอกจากโรคนี้แล้วก็อาจเสี่ยงต่อการมีบุตรยากและเป็นโรคโลหิตจางได้อีกด้วย
วิตามินซี ได้รับมากเกินก็มีโทษ
ถึงแม้ว่าวิตามินซีจะมีประโยชน์ต่อร่างกายของคนเราและควรได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอเสมอ แต่การได้รับมากเกินไปก็อาจก่อให้เกิดโทษได้เหมือนกัน โดยมีอันตรายจากวิตามินซีดังนี้
- เสี่ยงเป็นนิ่วในไต เพราะวิตามินซีจะไปรบกวนการดูดซึมของซีลีเนียมและทองแดง ที่มีความจำเป็นต่อการป้องกันนิ่วในไต จึงทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นนิ่วมากขึ้นและมีความอันตรายไม่น้อยเลยทีเดียว
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ ส่วนใหญ่จะเกิดจากการได้รับวิตามินซีมากกว่า 10,000 มิลลิกรัมต่อวัน จึงทำให้มีอาการแน่นท้องและท้องอืดได้ นอกจากนี้ก็อาจเกิดอาการท้องสียได้อีกด้วย
เคล็ดลับการทานวิตามินซีเพื่อผลลัพธ์ดีที่สุด
การทานวิตามินซีให้เกิดประโยชน์และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่เลือกทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงเท่านั้น แต่ต้องรู้จักทานให้ถูกวิธีและถูกเวลาอีกด้วย โดยเราก็มีเคล็ดลับการทานวิตามินซีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดมาแนะนำเช่นกัน ซึ่งจะมีวิธีไหนบ้างนั้นมาดูกันเลย
ทานพร้อมอาหาร
เพราะวิตามินซีมีฤทธิ์เป็นกรด การทานในขณะที่ท้องกำลังว่าง จึงอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องได้ ดังนั้นจึงควรทานพร้อมอาหารหรือหลังมื้ออาหารจะดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซีที่ได้จากธรรมชาติหรือวิตามินซีเสริมก็ตาม นอกจากนี้การทานวิตามินซีในช่วงดังกล่าวก็จะทำให้วิตามินซีถูกดูดซึมไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดอีกด้วย
ทานตอนเช้าประมาณ 9-10 โมง
จากการวิจัยพบว่า ร่างกายของคนเราสามารถดูดซึมวิตามินซีและนำไปใช้งานได้ดีที่สุดในช่วงเช้าประมาณ 9 – 10 โมง ดังนั้นจึงควรทานวิตามินซีในช่วงเช้าเป็นหลัก โดยอาจจัดผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีสักจานมาไว้ทานเป็นอาหารว่างในขณะนั่งทำงานก็ได้
ทานในปริมาณที่เหมาะสม
ร่างกายของคนเรามีความต้องการวิตามินซีที่แตกต่างกันไป ดังนั้นจึงควรทานวิตามินซีให้เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยจากการศึกษาพบว่า
- ผู้หญิงที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ควรได้รับวิตามินซีอย่างน้อย 60 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยหรือร่างกายอ่อนแอ ควรได้รับวิตามินซีอย่างน้อยประมาณ 1,000 – 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้ที่อยู่ท่ามกลางมลพิษ สูบบุหรี่หรือมักจะมีความเครียดบ่อยๆ ควรได้รับวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม
ทานวันละ 2 ครั้ง เช้า–เย็น
สำหรับคนปกติ การทานวิตามินซีวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก็เพียงพอที่จะช่วยบำรุงร่างกายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ควรเลี่ยงการทานก่อนนอน เพราะอาจทำให้ร่างกายตื่นตัวจนเกิดอาการนอนไม่หลับได้นั่นเอง
จะเห็นได้ว่าวิตามินซีสามารถบรรเทาอาการไข้หวัดได้จริงและประโยชน์ของวิตามินซีก็มีมากมายอีกด้วย เพราะฉะนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีควรหันมาทานวิตามินซีกันให้มากขึ้น โดยเลือกทานจากผักผลไม้ธรรมชาติเป็นหลัก
เนื่องจากจะให้คุณประโยชน์ที่สูงกว่าการทานวิตามินซีเสริมนั่นเอง ที่สำคัญต้องทานให้ถูกวิธีเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียตามมาอีกด้วย ใครอยากมีสุขภาพดี แข็งแรง ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด