วันสตรีสากล โดยวันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี ทั่วโลกกำหนดให้เป็นวันสตรีสากล “International Woman Day” เป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษมาแล้วที่คนทั่วโลกถือให้วันที่ 8 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันพิเศษสำหรับผู้หญิงที่เรียกว่า “วันสตรีสากล” วันนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ใครเป็นผู้ริเริ่ม และ มีจุดประสงค์อะไร
ประวัติ วันสตรีสากล
จุดเริ่มต้นของวันสตรีสากลที่เก่าแก่ที่สุด เกิดขึ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 1909 ในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อกลุ่มแรงงานผู้หญิงที่ทำงานอยู่ในโรงงานเย็บผ้าได้รวมตัวกันตามท้องถนน เพื่อเดินขบวนเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียม หลังจากได้รับค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรม อีกทั้งยังต้องทำงานหนักวันละ 16-17 ชั่วโมง นับเป็นความพยายามในการออกมาเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีครั้งสำคัญ ภายใต้การสนับสนุนของพรรคสังคมนิยม
โดยก่อนหน้านี้ วันที่ 8 มีนาคม 1907 นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีชาวเยอรมัน “Clara Zetkin” ได้ปลุกระดมให้กลุ่มแรงงานหญิงมากกว่า 15,000 คน ประท้วงหยุดงานเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมส่วนสาเหตุที่เลือกเคลื่อนไหวในวันที่ 8 มีนาคม เป็นไปตามคำแนะนำของ “Theresa Malkiel” นักเคลื่อนไหวที่ต้องการระลึกถึงการต่อสู้ของแรงงานผู้หญิงที่ทำงานในโรงงานเย็บผ้า ซึ่งพวกเธอได้รวมตัวกันลุกฮือในการเรียกร้องให้นายจ้างเพิ่มค่าแรง และ สวัสดิการ เมื่อในวันที่ 8 มีนาคม 1857 แต่ระหว่างการชุมนุมก็มีการลอบวางเพลิงโรงงานเย็บผ้า และมีการใช้กำลังสลายการชุมนุม จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 119 คน
จนกระทั่งปี ค.ศ. 1910 มีการจัดประชุมสมัชชาแรงงานสตรี ณ ประเทศเดนมาร์ก นับเป็นครั้งแรกที่มีการแต่งตั้งตัวแทนแรงงานผู้หญิง จำนวน 100 คน จาก 17 ประเทศทั่วโลก ปีต่อมาจึงมีการจัดงานวันสตรีสากลขึ้น (แต่เดิมใช้ชื่อว่า “วันสตรีแรงงานสากล”) ทำให้การต่อสู้ และ นัดหยุดงานเพื่อเรียกร้องสิทธิของแรงงานหญิงดำเนินเรื่อยมา ในที่สุดปี 1975 องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้มีการจัดงาน “วันสตรีสากล” ขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ความสำคัญกับบทบาท และ สิทธิของสตรีทั่วโลก
วันสตรีสากล ถึงเป็นวันที่ 8 มีนาคม
แนวคิดดั้งเดิมเรื่องวันสตรีสากลของคลาราไม่ได้กำหนดวันที่ตายตัวไว้ ยังไม่มีการกำหนดวันที่ตายตัวจนกระทั่งช่วงสงครามในปี 1917 ซึ่งผู้หญิงรัสเซียเรียกร้อง “ขนมปัง และ สันติภาพ” โดยในวันที่สี่ของการผละงานประท้วงของผู้หญิง พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซียได้ถูกขับลงจากราชบัลลังก์ และ รัฐบาลเฉพาะกาลได้อนุมัติให้ผู้หญิงมีสิทธิ์ในการลงคะแนนเลือกตั้ง วันที่ผู้หญิงรัสเซียผละงานประท้วงตรงกับวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ตามปฏิทินจูเลียนที่ใช้กันในรัสเซีย ซึ่งวันดังกล่าวตรงกับวันที่ 8 มีนาคมตามปฏิทินเกรโกเรียนที่ใช้กันแพร่หลายในประเทศตะวันตก และ เป็นวันที่ยึดถือเป็นวันสตรีสากลมาจนถึงปัจจุบัน
สีประจำวันสตรีสากล
สีม่วง สีเขียว และ สีขาว คือ สีประจำวันสตรีสากล
- สีม่วง มีความหมายถึง ความยุติธรรม และ ความมีเกียรติ
- สีเขียว เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง
- สีขาว เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ ถึงแม้จะเป็นแนวคิดที่มีการถกเถียงเป็นวงกว้างก็ตาม
สีเหล่านี้มาจากสหภาพสังคม และ การเมืองสตรี (Women’s Social and Political Union หรือ WSPU) ในสหราชอาณาจักรเมื่อปี 1908
สัญลักษณ์ คือ ดอกมิโมซ่าสีเหลือง
สัญลักษณ์ของวันสตรีสากล คือ “ดอกมิโมซ่าสีเหลือง” เป็นดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของความอ่อนโยนของผู้หญิง แต่ก็แข็งแกร่งในคราวเดียวกัน เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่เติบโตในช่วงฤดูหนาวท่ามกลางความหนาวเย็น แต่สามารถอยู่รอดจนผ่านฤดูหนาว และ ผลิดอกได้ในช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งตรงกับเดือนของวันสตรีสากลพอดีนั่นเอง นอกจากดอกมิโมซ่าสีเหลือง หลายประเทศในยุโรปก็ยังนิยมใช้ดอกทิวลิป ดอกกุหลาบ หรือ ดอกไม้ชนิดอื่นๆ มาเป็นสัญลักษณ์
ความสำคัญ และ กิจกรรมในวันสตรีสากล
ในวันสตรีสากลของทุกปี ทั่วโลกจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมสิทธิสตรี ในสหรัฐอเมริกาจะมีการบริจาคเงินให้แก่องค์กร หรือ หน่วยงานการกุศลที่สนับสนุน และ ให้ความช่วยเหลือผู้หญิงในประเด็นต่างๆ ในขณะที่หลายประเทศทั่วยุโรป ผู้ชายจะนำดอกไม้ไปมอบให้ผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นแม่ เพื่อนผู้หญิง เพื่อนร่วมงาน หรือ คนรัก เพื่อเป็นการขอบคุณผู้หญิงที่ต่อสู้เคียงข้างกัน และ มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนสังคม
วันสตรีสากล ไม่ใช่เพียงวันธรรมดาวันหนึ่งบนปฏิทิน แต่คือวันที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์การต่อสู้ของผู้หญิงทุกยุคทุกสมัย เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิ และ โอกาสที่พวกเธอพึงมีเท่าเทียมกับผู้ชาย โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีการส่งเสริมสิทธิสตรีอย่างกว้างขวาง นับเป็นก้าวกระโดดสำคัญที่สังคมยุคใหม่สะท้อนถึงการได้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
การเฉลิมฉลอง
วันสตรีสากลถูกกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงรัสเซีย ซึ่งมักมียอดขายดอกไม้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วง 3-4 วันใกล้กับวันที่ 8 มีนาคม
ในจีนลูกจ้างหญิงจำนวนมากจะได้รับอนุญาตให้ทำงานครึ่งวันในวันนี้ ขณะที่ในอิตาลีมักมีการมอบดอกมิโมซา (mimosa) ให้แก่ผู้หญิง แม้จะไม่ทราบเหตุผลแน่ชัดของการให้ดอกไม้ชนิดนี้ แต่เชื่อกันว่าธรรมเนียมนี้เริ่มขึ้นในกรุงโรม ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ในสหรัฐฯ มีนาคมถือเป็นเดือนแห่งประวัติศาสตร์สตรี ที่แต่ละปีจะมีการออกประกาศประธานาธิบดีเชิดชูความสำเร็จของผู้หญิงอเมริกัน
ผู้จัดงานสตรีสากลปีนี้ระบุว่าคำขวัญปีนี้สื่อถึงการที่ผู้หญิงสามารถเลือกที่จะท้าทายอคติและความไม่เสมอภาคทางเพศ และ เลือกที่จะใฝ่หาและเฉลิมฉลองความสำเร็จของผู้หญิง เพื่อช่วยกันสร้างโลกที่เปิดกว้างสำหรับคนทุกคน
บทความที่แล้ววันสำคัญของไทย อีกวันที่รำลึกถึงศิลปินแห่งชาติ ลำตัสหังแต๊ะ สามารถอ่านประวัติวันสำคัญของศิลปินได้ที่ ลำตัดหวังเต๊ะ