Sunday, 24 November 2024

ประโยชน์ของวิตามินบีรวมคือ

ประโยชน์ของวิตามินบีรวมคือ

ประโยชน์ของวิตามินบีรวมคือ ที่เรารู้จักมักคุ้นกันในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่คุณรู้หรือไม่ว่าวิตามินบีนั้นมีอยู่หลายชนิด และต่างก็มีประโยชน์ และ ผลข้างเคียงที่ต่างกันออกไป โดยวิตามินบีแต่ละตัวจะทำงานเสริมซึ่งกัน และ กัน ต้องรับประทานร่วมกันจึงจะมีประสิทธิภาพมากกว่าแยกรับประทาน สำหรับชนิดต่าง ๆ ของวิตามินบีรวมนั้นก็ได้แก่ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินบี 7 วิตามินบี 9 วิตามินบี 12 วิตามินบี 15 วิตามินบี 17 และ ยังรวมไปถึง ไบโอติน โคลีน พาบา อิโนซิทอล อีกด้วยที่จัดว่าอยู่ในกลุ่มของวิตามินบีรวม

สำหรับการรับประทานวิตามินบีในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้น ไม่ควรแยกรับประทานเพราะจะไม่ได้ประสิทธิภาพดีเท่าที่ควร แต่ควรรับประทานเป็นวิตามินบีรวม เพราะวิตามินบีแต่ละชนิดนั้นจะทำหน้าที่ส่งเสริมซึ่งกัน และ กัน และ จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานอย่างสูงสุด โดยวิตามินบีรวมนั้นมีความจำเป็นอย่างมากต่อระบบประสาท และ ความสมบูรณ์ของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย

ประโยชน์ของวิตามินบีรวมคือ ประกอบด้วย

วิตามินบีรวมประกอบด้วยวิตามินบี 8 ชนิดดังนี้ 

  • B-1 (วิตามินบี) วิตามินบีเป็นสารอาหารที่จำเป็นที่เนื้อเยื่อของร่างกายเพื่อให้ร่างกายได้ทำงานได้อย่างเหมาะสม วิตามินบีเป็นวิตามินบีตัวแรกที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ นี่คือเหตุผลว่าทำไมชื่อของมันจึงมีหมายเลข 1
  • B-2 (ไรโบฟลาวิน) วิตามินบี2 หรือ ไรโบฟลาวินนั้นเป็นอาหารตามธรรมชาติ มันมีอยู่ในอาหารอื่น ๆ ในรูปแบบสังเคราะห์ เช่น วิตามิน B2 และ วิตามิน B อื่น ๆ วิตมินชนิดนี้ช่วยให้ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และ สนับสนุนการทำงานของเซลล์อื่น ๆ ที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย
  • B-3 (ไนอาซิน) ไนอาซินเป็นหนึ่งใน 8 วิตามินบีที่ละลายน้ำได้ เป็นที่รู้จักกันว่ากรดนิโคติน, ไนอาซินาไมด์ และ นิโคติน  นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการสร้าง และ ซ่อมแซม DNA และ ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
  • B-5 (กรด pantothenic) วิตามินบี 5 หรือ ที่เรียกว่ากรด pantothenic เป็นหนึ่งในวิตามินที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตมนุษย์ เพราะจำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือด และ ช่วยให้คุณแปลงอาหารที่คุณกินให้เป็นพลังงาน
  • B-6 (ไพริดอกซิ) วิตามินบี 6 เป็นหนึ่งในวิตามินบีที่เป็นประโยชน์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการบำรุงประสาท และ สร้างไมอีลินอีกด้วย 
  • B-7 (ไบโอติน) ไบโอตินจะช่วยให้ผิว, ผม,ดวงตา,ตับ และ ระบบประสาทให้มีสุขภาพดีขึ้น อีกทั้งไบโอตินยังเป็นสารอาหารสำคัญที่ผู้หญิงตั้งครรภ์ขาดไม่ได้ เพราะไบโอตินจะช่วยในการเจริญเติบโตของบุตรในครรภ์ 
  • B-9 (กรดโฟลิก) วิตามินบี 9 เป็นสารอาหารที่จำเป็น และ มันทำหน้าที่ที่สำคัญมากมายในร่างกายของคุณ นั่นก็ คือ วิตามินชนิดนี้บทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตของเซลล์
  • B-12 (Cobalamin) Vitamin B12 เป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้เช่นเดียวกับวิตามิน B อื่น ๆ วิตามิน B12 เป็นวิตามินที่ใหญ่ที่สุด และ ซับซ้อนที่สุดในโครงสร้างของวิตามินบี วิตามิน B12 มีความสำคัญต่อการทำงานของสมอง และ ระบบประสาท
วิตามินบีรวม

ประโยชน์ของวิตามินบีรวมคือ

วิตามินบีมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพ และ ช่วยเสริมสร้าง ร่างกายที่แข็งแรง อีกทั้งวิตามินบียังสามารถช่วยในการทำงานของสมอง และ บำรุงระบบประสาท แต่วิตามินบีไม่ได้มีดีแค่นั้น ยังมีประโยชน์อีกมากมายเลยทีเดียว

  • ช่วยในการการเจริญเติบโตของเซลล์เม็ดเลือดแดง
  • ช่วยรักษาระดับพลังงานในร่างกาย
  • ช่วงบำรุงสายตา ทำให้สายตาของคุณดีขึ้น 
  • ช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดีมากขึ้น 
  • ช่วยรักษาสุขภาพหัวใจ และ หลอดเลือดให้แข็งแรง 
  • ช่วยให้ไม่อ่อนเพลียตากการนอนน้อย หรือ พักผ่อนไม่เพียงพอ

อาการที่บ่งบอกว่าคุณกำลังขาดวิตามินบี

  • ร่างกายของคุณมีผื่นขึ้นที่ผิวหนัง
  • มีรอยแตกรอบ ๆ ปาก หรือ มีอาการปากแห้ง และ สะเก็ดที่ริมฝีปาก หากขาดมาก ๆ ก็มักจะมีอาการลิ้นบวม
  • คุณจะรู้สึกหงุดหงิด หรือ ก่อให้เกิดอาการซึมเศร้ามากกว่าปกติ
  • มีอาการปวดท้อง หรือ เกิดอาการท้องร่วง
  • มีความรู้สึกมึนงง หรือ รู้สึกชาบริเวณฝ่าเท้า และ ฝ่ามือ
  • รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง และ ไร้สมาธิในการทำงาน
กินวิตามินบีร่วมกับวิตามินซี

ร่างกายต้องการวิตามินบีปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน

ปริมาณวิตามินบีที่ผู้หญิงต้องการ 

  • วิตามิน B1 : 1.1 มิลลิกรัม
  • วิตามิน B2 : 1.1 มิลลิกรัม
  • วิตามิน B3 : 14 มิลลิกรัม
  • วิตามิน B5 : 5 มิลลิกรัม
  • วิตามิน B6 : 1.3 มิลลิกรัม
  • ไบโอติน : 30 ไมโครกรัม 
  • กรดโฟลิก : 400 ไมโครกรัม
  • วิตามิน B12 : 2.4 ไมโครกรัม

ปริมาณวิตามินบีที่ผู้ชายต้องการ 

  • วิตามิน B1 : 1.2 มิลลิกรัม
  • วิตามิน B2 : 1.3 มิลลิกรัม
  • วิตามิน B3 : 16 มิลลิกรัม
  • วิตามิน B5 : 5 มิลลิกรัม
  • วิตามิน B6 : 1.3 มิลลิกรัม
  • ไบโอติน : 30 ไมโครกรัม 
  • กรดโฟลิก : 400 ไมโครกรัม
  • วิตามิน B12 : 2.4 ไมโครกรัม

นี่คือปริมาณวิตามินบีที่ร่างกายของเราต้องการในแต่ละวัน ในปัจจุบันเราไม่จำเป็นต้องแยกทานอาหารเสริมวิตามินบีแล้ว เพราะว่ามีวิตามินบีชนิดรวม โดยคุณสามารถทานได้วันละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้าเพราะจะช่วยให้ร่างกายเราเฟรชได้ตลอดทั้งวัน (ผู้สูงอายุ และ ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์มักจะต้องการวิตามินบีในปริมาณที่สูงขึ้น ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อจะได้รับประทานวิตามินบีที่เหมาะกับความต้องการส่วนบุคคล)

ประโยชน์ของวิตามินบีรวมคือ และ จำเป็นแค่ไหน

ผู้ที่จำเป็นต้องใช้วิตามินบีรวม คือ ผู้ที่มีภาวะขาดวิตามินบีต่าง ๆ อาจะเป็นโรคที่ต้องได้รับวิตามินบีเสริม โดยควรที่จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ หรือ เภสัชกร เพราะไม่ใช่ว่าจะสามารถทานได้ทุกคน บางคนอาจมีโรคประจำตัว หรือ กำลังตั้งครรภ์ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยไม่ควรซื้อมารับประทานเองโดยไม่มีผู้เชียวชาญแนะนำ

ถึงแม้ว่าการรับประทานอาหารเสริมวิตามินบีรวมจะเป็นทางเลือกหนึ่งเพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย แต่สิ่งสำคัญที่ละเลยไม่ได้ก็คือการเลือกประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

วิตามินบีรวมทานตอนไหน

วิตามินบีรวม ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย

โดยปกติแล้ว วิตามินบีที่ร่างกายได้รับจากอาหาร หรือ วิตามินบีรวมที่มีแพทย์ หรือ เภสัชกรเป็นผู้สั่งจ่ายมักมีความปลอดภัย สำหรับผู้ที่ซื้อวิตามินมารับประทานเองควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ และ เภสัชกร โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอย่างผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ วางแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะบางผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายนั้นอาจมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ 

ผลข้างเคียงของการใช้วิตามินบีรวมที่พบได้ทั่วไป คือ ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม และ สว่างขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการขับวิตามินส่วนเกินออก แต่ไม่ใช่ผลเคียงที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ การบริโภควิตามินบีมากเกินความจำเป็นก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น อาเจียน ผื่นขึ้น เวียนศีรษะ หรือ ตับอักเสบ เป็นต้น จึงควรใช้ในปริมาณที่แพทย์ หรือ เภสัชกรกำหนดเท่านั้น รวมถึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถือ และ ปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม การใช้วิตามินเป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีที่จะช่วยบำรุงร่างกาย และ ไม่สามารถใช้เป็นการรักษาหลัก หรือ ป้องกันโรคได้ ดังนั้น หากมีโรคประจำตัวควรใช้วิตามินดังกล่าวหลังจากปรึกษาแพทย์ และ เภสัชกรแล้ว รวมทั้งดูแลตนเองในรูปแบบอื่น เพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง และ ดำเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพ เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ และ งดสูบบุหรี่ เป็นต้น

วิตามินซีสามารถช่วยป้องกันโรคหวัด หรือ โรคภูมิแพ้ได้ด้วย หากกินตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ เภสัช โดยอาหารเสริมวิตามมินซี สามารถช่วยลดอาการหวัด หรือ ภูมิแพ้ได้ สามารถอ่านเพิ่มได้ที่ วิตามินซี แก้หวัด ภูมิแพ้


เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงเสนอสิทธิประโยชน์ที่ตรงตามความสนใจของคุณมากที่สุด ถ้าคุณยังใช้งานต่อไปโดยไม่ปฏิเสธคุกกี้ เราจะเก็บคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้น ทั้งนี้ คุณสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเราได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายการใช้คุกกี้

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save