Hedera Hashgraph คือ ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2022 ที่ผ่านมา Hedra Hashgraph หรือ เหรียญ HBAR กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งในหมู่นักลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี และ ผู้เชี่ยวชาญ หลังคนดังด้านคริปโตอย่าง Elon Musk ได้โพสต์ข้อความสนับสนุนโปรเจกต์ Hedera Hashgraph ผ่านบัญชีส่วนตัวในทวิตเตอร์ ท่ามกลางกระแสขาขึ้นของ Hedra Hashgraph ณ ขณะนี้ เหรียญ HBAR ยังน่าลงทุนในปี 2022 อยู่หรือไม่ เรามาวิเคราะห์แนวโน้มของเหรียญ HBAR ในปีนี้ไปพร้อม ๆ กัน
HBAR คืออะไร
HBAR (เฮชบาร์) คือเหรียญประจำแพลตฟอร์ม Hedera Hashgraph โดยมีหน้าที่อยู่ 2 อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือเป็นสกุลเงินที่หมุนเวียนในระบบ โดยผู้ใช้จะนำ HBAR มาใช้เมื่อต้องการใช้บริการของแพลตฟอร์ม อาทิ การใช้งานสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) การจัดเก็บข้อมูล หรือการประมวลผลธุรกรรม และอย่างที่สองคือใช้วางค้ำประกัน (Stake) เพื่อช่วยตรวจสอบธุรกรรมและรักษาความมั่นคงของแพลตฟอร์ม
Hedera Hashgraph คือ
Hedera Hashgraph (เฮเดลา แฮชกราฟ) คือแพลตฟอร์มสาธารณะที่รองรับ Smart Contract เพื่อสร้างแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (Decentralized Application) เช่นเดียวกับ Ethereum, Fantom, Avalanche, และอื่น ๆ แต่ Hedera เน้นการใช้งานในระดับ Enterprise-grade หรือระดับองค์กรขนาดใหญ่โดยเฉพาะ และมีจุดเด่นที่ Smart Contract เพราะนอกจากจะรองรับภาษา Solidity ที่เป็นภาษาเดียวกับที่ใช้บน Ethereum แล้ว Hedera ยังระบุอีกว่า Smart Contract ของพวกเขามีความเร็ว ความเสถียร เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีค่าธรรมเนียม (Gas Fee) ในระดับที่สามารถคาดเดาได้ง่ายเสมอ
Hedera Hashgraph มีบริษัทระดับโลกร่วมเป็นพาร์ตเนอร์เพื่อช่วยดูแลเครือข่ายและขยาย Ecosystem ของ HBAR ไม่ว่าจะเป็น Google, Ubisoft, DBS และอีกมากมาย
ทีมผู้พัฒนา HBAR
HBAR ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Hedera มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา มีผู้ร่วมก่อตั้ง 2 คน ได้แก่ Dr. Leemon Baird และ Mance Harmon
Dr. Leemon Baird คือมันสมองของโครงการ Hedera เนื่องจากเขาเป็นผู้คิดค้นโครงสร้าง Hashgraph โดยเขามีประสบการในวงการเทคโนโลยีมากกว่า 20 ปี เคยร่วมงานกับ Cyberspace Research ในฐานะนักวิจัยประจำ Academy Center แถมยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและควบตำแหน่ง CTO ของ Swirlds Inc. บริษัทผู้พัฒนา dApps
ส่วน Mance Harmon ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Hedera โดยเขาเป็นนักธุรกิจที่มีประสบการบริหารบริษัทเทคโนโลยีมากกว่า 20 ปี และเช่นเดียวกับ Dr.Leemon เขายังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งของ Swirlds Inc. ด้วยเช่นกัน
เทคโนโลยีที่น่าสนใจ
HBAR ไม่ได้สร้างขึ้นบนพื้นฐานของบล็อกเชนเหมือนกับแพลตฟอร์ม Smart Contract อื่น ๆ แต่ Hedera ใช้โครงสร้างที่เรียกว่า Hashgraph คิดค้นโดย Dr. Leemon Baird
เช่นเดียวกับ Blockchain และ DAG (Directed Acyclic Graph) โครงสร้าง Hashgraph จัดเป็นโครงสร้างสมุดบัญชีสาธารณะรูปแบบหนึ่ง และได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สืบทอดของบล็อกเชน เนื่องจากสามารถแก้ปัญหาสำคัญของบล็อกเชนได้ ไม่ว่าจะเป็น การขยายขนาด (Scalability) ความเร็ว และค่าธรรมเนียม
Dr. Leemon Baird ได้อธิบายเกี่ยวกับหลักการทำงานของ Hashgraph โดยมีฟังก์ชันที่สนใจมาก เรียกว่า “Gossip about Gossip” (การซุบซิบถึงเรื่องซุบซิบ) โดยการซุบซิบในที่นี้หมายถึงข้อมูลที่โหนดภายในเครือข่ายรู้ เช่น มูลค่าของธุรกรรม ผู้ทำธุรกรรม เวลา ลำดับบล็อก เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้า ฯลฯ ซึ่งถ้าเป็นบล็อกเชน ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องจะไม่ถูกนำใช้ร่วมกับการหาฉันทามติ แต่ถ้าเป็น Hashgraph ข้อมูลที่ยกตัวอย่างมาจะถูกส่งต่อไปยังโหนดอื่นแบบสุ่ม เพื่อให้โหนดอื่นรับรู้สิ่งที่เคยเกิดขึ้นของโหนดเจ้าของข้อมูล และเอาข้อมูลนั้นไปบอกโหนดอื่นต่อแบบสุ่มไปเรื่อย ๆ คล้ายกับเรื่องซุบซิบที่ถูกบอกต่อแบบปากต่อปากไปเรื่อย ๆ
ทีนี้พอแต่ละโหนดรู้เรื่องซุบซิบของโหนดอื่นแล้ว Hashgraph มีอีกฟังก์ชันหนึ่งที่เรียกว่า “Virtual Voting” (การโหวตเสมือน) อธิบายง่าย ๆ ว่าเป็นการโหวตโดยที่ไม่ต้องมาตกลงกันว่าจะโหวต เพราะแต่ละโหนดรู้เรื่องของโหนดอื่นแล้วจึงสามารถคาดเดาได้ว่าโหนดไหนหรือใครเป็นผู้ส่งธุรกรรม จึงสามารถบรรลุฉันทามติได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง โดยทาง Hedera ได้ระบุว่าโครงสร้างแบบ Hashgraph สามารถประมวลธุรกรรมได้เร็วถึง 10,000 ธุรกรรมต่อวินาที
Hedera Hashgraph กับ Smart Contract 2.0
Hedera ยังระบุอีกว่า Smart Contract ของพวกเขาเหนือกว่า Smart Contract ของแพลตฟอร์มอื่น ๆ ด้วย ปัจจัยดังต่อไปนี้
ค่าธรรมเนียมที่คาดเดาได้เสมอ – คนที่เคยทำธุรกรรมผ่านเครือข่ายบล็อกเชนอย่าง Bitcoin หรือ Ethereum น่าจะคุ้นเคยกับค่าธรรมเนียม (Gas Fee) ที่ผันผวนแทบจะตลอดเวลา แต่ผู้พัฒนา Hedera Hashgraph ได้ยืนยันว่าค่าธรรมเนียมเครือข่ายจะอยู่ที่ประมาณ 0.0001 ดอลลาร์/ธุรกรรม เสมอ
รองรับการอัปเกรด – นักพัฒนาที่รัน Smart Contract บน Hedera สามารถเลือกได้ว่าจะให้ Smart Contract เป็นแบบ “แก้ไขไม่ได้” (Immutable) อย่างถาวร หรือจะเลือกแบบมี Admin Key ที่ผู้ถือสามารถเข้าไปปรับปรุงและอัปเดต Smart Contract ได้อย่างง่ายดาย ขณะที่ผู้ใช้คนอื่นก็สามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใสเช่นกัน
ดำเนินธุรกรรมตามลำดับที่สร้าง – อีกหนึ่งปัญหาที่ผู้ใช้บล็อกเชนรุ่นเก่า ๆ เผชิญก็คือธุรกรรมของเราจะได้รับการยืนยันก่อนหรือหลังมักจะขึ้นอยู่ค่าธรรมเนียม (Gas Fee) ที่จ่ายให้กับนักขุด ยิ่งจ่ายมากก็ยิ่งมีโอกาสถูกเลือกขึ้นมายืนยันก่อน แต่บน Hedera Hashgraph จะยึดตามลำดับก่อน-หลัง ทำให้การทำธุรกรรมมีความยุติธรรมนั่นเอง
รองรับภาษา Solidity – ภาษา Solidity คือภาษาที่ใช้เขียน Smart Contract บน Ethereum และเป็นภาษาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มนักพัฒนาแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ นั่นหมายความว่านักพัฒนาบน Hedera จะได้ประโยชน์จากชุมชนโปรแกรมเมอร์ที่ใหญ่ที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ตัวอย่างของแอปฯ ที่ประสบความสำเร็จ กรณีศึกษา ที่ปรึกษา และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่จะช่วยผลักดันการใช้งาน Hedera Hashgraph ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
การกระจายเหรียญ HBAR
อ้างอิงบทความโดย Coin98 เหรียญ HBAR ถูกสร้างออกมาโดยมีจำนวน (Supply) จำกัดที่ 50,000,000,000 HBAR (5 หมื่นล้าน) และมีการกระจายโทเคนดังนี้
- 32.4% – สำหรับกองทุน Hedera (Hedera Pre-minted Treasury)
- 24% – สำหรับการพัฒนาระบบนิเวศ (Ecosystem Development)
- 17.4%. – สำหรับข้อตกลงในการซื้อ (Purchase Agreement)
- 13.8% – สำหรับผู้ก่อตั้งและผู้บริหารระดับสูง (Founders & Early Executives).
- 8% – สำหรับบริษัท Swirlds Inc.
- 4.4% – สำหรับพนักงานและผู้ให้บริการ (Employees & Service Providers)