Wednesday, 4 December 2024

CloudFlare Caching Web จัดการแคชในคลาวแฟร์ EP7

CloudFlare Register

CloudFlare Caching Web บทความนี้จะมาแนะนำ ขั้นตอนการจัดการเกี่ยวกับระบบ แคช บน คลาวแฟร์กัน ซึ่งบทความนี้เดินทางมาถึง EP7 แล้ว ซึ่งการจัดการแคชบน คลาวแฟร์ เราจะจัดการอะไรได้บ้าง และ มีอะไรที่เราสามารทำได้บ้างในเรื่องของ แคช ของ คลาวแฟร์ ใน Account Free

ว่าด้วยเรื่องการจัดการ Caching ของ คลาวแฟร์ ซึ่งอธิบายง่ายๆคือทาง คลาวแฟร์ จะดำเนินการ เก็บข้อมูลของเว็บไซต์ของเราเอาไว้ ที่ Server ของทาง คลาวแฟร์ ซึ่งได้อธิบายไว้ใน EP ก่อนหน้าแล้ว สามารถไปหาอ่านกันได้ และ ในบทควาที่แล้วทาง IndyDiary ได้อธิบายถึง CloudFlare PageSpeed ปรับจูน WordPress ให้เร็วขึ้น EP6 สามารถตามไปอ่านได้ที่ CloudFlare PageSpeed ปรับจูน WordPress ให้เร็วขึ้น EP6 ไม่ว่าจะเว็บ หรือ WordPress ก็สามารถใช้ คลาวแฟร์ช่วยจัดการได้หมด

CloudFlare Caching Web ทำอะไรได้บ้าง

ซึ่งการจัดการแคชของ คลาวแฟร์ ใน Account Free ก็ไม่ค่อยได้จัดการอะไรได้มากมายนัก แต่สำหรับคนทำเว็บ ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว โดยการจัดการแคช สามารจัดการได้ดังนี้

  • Purge Cache คือ การลบแคชทั้งหมดออกจาก Server Cloud Flare
  • Caching Level เลือกว่าจะให้ คลาวแฟร์ ทำการแคชหน้าเว็บเราแบบไหน
  • Browser Cache TTL การเก็บแคช TTL ไว้บน Browser
  • Always Online หากเว็บของเราล่ม คลาวแฟร์จะช่วยโหลดเว็บจาก Cache
  • Development Mode การบายพาสระบบแคช เพื่อทดสอบหน้าเว็บ

การใช้งานเมนูแคช สามารถเข้าใช้งานได้ดังนี้ Cloud Flare Portal > Caching > Configuration ดังรูป

CloudFalre caching web control panel

CloudFlare Caching Web จัดการ Purge Cache

เป็นการลบแคชทั้งหมดออกจาก Server ของคลาวแฟร์ และ ระบบของ คลาวแฟร์ จะทำการโหลดแคชมาใหม่จาก Web หรือ WordPress Blog ของเรา เพื่อให้ได้ข้อมูลใหม่จากเว็บของเราดังรูป

CloudFlare Purge cache

CloudFlare Caching Web จัดการ Caching Level

เป็นการเลือกว่าเราต้องการทำแคชบน คลาวแฟร์ แบบไหน เพื่อช่วยลดภาระของ VPS Server หรือ Webhosting ของเรา และ การโหลดผ่าน แคช ของคลาวแฟร์จะทำให้ผู้เยี่ยมชม Website เข้าถึงเว็บของเราได้เร็วยิ่งขึ้น โดยค่าที่ทาง คลาวแฟร์ แนะนำคือ Standard ดังรูป

CloudFlare Purge cache level

Browser Cache TTL

เป็นการกำหนดระยะเวลาของการเก็บแคช TTL เอาไว้ที่ Browser ว่าจะให้เก็บไว้นานเท่าไร เพื่อเป็นการเร่งความเร็วในการเข้าเยี่ยมชม Website หรือ WordPress Blog ของเรา โดยการตั้งค่าตาม คลาวแฟร์ ดังรูป

CloudFlare Purge browser TTL

Always Online

เป็นระบบของ คลาวแฟร์ ที่ช่วยโหลดหน้าเว็บของเราในกรณีเว็บของเราล่มไป โดยทางระบบของ คลาวแฟร์ จะทำการโหลดหน้าเว็บเราออกมาจาก Caching ของทาง คลาวแฟร์ ซึ่งก็มีผลดีคือ หน้าเว็บของเราจะไม่ล่ม มีข้อมูลแสดงผู้เยี่ยมชม แต่ข้อเสียก็คือ จะแสดงแค่ข้อมูลบางส่วนเท่านั้นเอง และ มีเครื่องหมายของคลาวแฟร์บอกว่า เว็บของเราล่มไป ดังรูปที่แสดง

CloudFlare Purge Always on

Development Mode

เป็นการ Bypass ระบบแคชจากทาง server ของ คลาวแฟร์ เอาไว้ชั่วคราว โดยจะไปโหลดข้อมูลมาจากหน้าเว็บของเราแทน สำหรับเอาไว้ทดสอบหน้าเว็บ หรือ ทดสอบการปรับจูนเว็บ หรือ มีปรับแต่งเว็บ

CloudFlare development mode

บทสรุป

ระบบแคชของทาง คลาวแฟร์ ใน Account แบบ Free ไม่สามารถปรับอะไรได้มากมายนัก ซึ่งการปรับแต่งสามารถปรับได้แค่ การลบแคชทิ้ง ออกจาก server ของ CloudFlare การเก็บ Caching Level หรือ Development Mode สำหรับการ by pass Cache เพื่อทดสอบหน้าเว็บจริงๆว่าแสดงผลอย่างไร แต่สำหรับอินดีเท่านี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว

แห่ลงอ้างอิง Cloudflare Help Center

เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงเสนอสิทธิประโยชน์ที่ตรงตามความสนใจของคุณมากที่สุด ถ้าคุณยังใช้งานต่อไปโดยไม่ปฏิเสธคุกกี้ เราจะเก็บคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้น ทั้งนี้ คุณสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเราได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายการใช้คุกกี้

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save