Saturday, 23 November 2024

Chainlink เหรียญ

Chainlink

Chainlink เหรียญ นั่นเป็นเครือข่าย oracle รูปแบบกระจายอำนาจที่จะส่งข้อมูลในโลกแห่งความจริงไปยังสัญญา smart contracts บนเครือข่าย blockchain หรือ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็ คือ LINK เป็นโทเค็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้สำหรับการชำระค่าบริการบนเครือข่าย

เพื่อให้เข้าใจถึงประโยชน์ของ ChainLink และ วิธีการทำงานมากขึ้น คุณจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานบางอย่าง และ แนวคิดที่เชื่อมโยงกัน เริ่มต้นด้วยสัญญา smart contracts

  • Chainlink ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 เป็น Oracle แบบ Decentralized ที่เชื่อมโยง Smart Contract กับข้อมูลภายนอกเครือข่าย กิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการชำระเงิน โดยโครงสร้างพื้นฐานของ Chainlink จะช่วยให้ Smart Contract เชื่อมโยงกับ API เพื่อการสื่อสาร และ รับข้อมูลจากแหล่งภายนอก
  • เครือข่าย Chainlink ขับเคลื่อนโดยชุมชนในลักษณะ Open-source ขนาดใหญ่ซึ่งประกอบด้วยผู้ให้บริการข้อมูล ผู้ดำเนินการ Node  นักพัฒนา Smart Contract  รวมถึงนักวิจัย ผู้ตรวจสอบความปลอดภัย และ อื่นๆ โดยบริษัทมุ่งเน้นที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ดำเนินการ Node และ ผู้ใช้งานว่าจะได้รับการรับประกันในการมีส่วนร่วมแบบ Decentralized กับเครือข่าย
  • โทเคน LINK ถูกสร้างบนมาตรฐาน ERC-677 เพื่อใช้ในการชำระค่าธรรมเนียมสำหรับรัน Nodeใน Smart Contract ผู้ดำเนินการ Node จะดึงข้อมูลนอกเครือข่ายไปยัง Blockchain และ เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ใช้งาน Chainlink โดยมี Reputation System ที่ผู้ใช้งานสามารถโหวต Node ที่ทำงานได้ดีเพื่อส่งเสริมให้ผู้ให้บริการได้รักษาคุณภาพการบริการที่ดีไว้
  • Chainlink ใช้หลักการ Proof-of-Stake (PoS) ซึ่งต่างจากหลักการ Proof-of-Work (PoW) ที่เป็นกลไกของ Bitcoin การใช้ PoS อาศัยจำนวนโทเคนที่ Stake ไว้สำหรับการคัดเลือกผู้ตรวจสอบ Node

สำหรับระบบการทำงานที่เป็นตัวกลางของการกระจายข้อมูลทางธุรกิจได้นั้นทำให้ Chainlink สามารถจะทำรายได้ให้กับผู้พัฒนาระบบบล็อกเชนได้จากค่าบริการจากผู้ใช้งานโดยจะคิดเป็นสกุลเงิน Link Coin ซึ่งเหรียญ link จะเป็น Token ERC20 ที่จะมีการจำหน่ายอยู่บน Ethereum Blockchain โดย Link Coin จะมีการใช้ฟังก์ชัน transfer and call ในการโอนจึงมีผลทำให้สามารถจะรับเหรียญ และ การทำสัญญาจบลงได้ในคราวเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันนี้ทำให้ Link มีจำนวนเหรีญญมากถึง 1 พันล้านเหรียญ

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

  • เนื่องจาก Chainlink ถูกสร้างบน Ethereum ถ้าหากเครือข่าย Ethereum มีปัญหาก็จะส่งผลกระทบต่อ Chainlink ด้วย
  • เครือข่าย Oracle ยังมีจำกัดประมาณ 241 เครือข่าย ในบางครั้งเครือข่ายอาจจะดึงข้อมูลล่าช้า ซึ่งในอนาคต Chainlink น่าจะมีการเพิ่ม Node เพื่อรองรับระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อมูลที่ดึงผ่าน ChainLink ได้มีตั้งแต่ข้อมูลการชำระเงิน เช่น จากธนาคาร บัตร VISA Paypal ข้อมูลทางบัญชีจาก SAP Saleforce ไปจนถึงข้อมูลตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ข้อมูลเศรษฐกิจจาก Bloomberg ข้อมูลจาก HyperLedger และ Blockchain อื่นๆ รวมถึงข้อมูลสภาพอากาศ หรือ GPS จากดาวเทียมต่างๆ อีกด้วย

ตัวอย่างการใช้งาน ได้แก่ การใช้หลักทรัพย์  Smart Contract ที่ใช้ API ในการอ้างอิงดัชนีในตลาดหลักทรัพย์ เช่น อนุพันธ์ หรือ การเทรด Future หรือ ออปชันหุ้นที่มีการจำกัด Gain หรือ Loss อย่างอัตโนมัติด้วย Smart Contract หรือ พันธบัตร และ หน่วยลงทุนที่จ่ายดอกเบี้ยผ่าน Smart Contract เป็นต้น

นักพัฒนาบล็อกเชนสามารถทำเงินได้จาก ChainLink โดยการเป็น Node Operator หรือ ผู้ให้บริการในการเป็นตัวกลางในการดึงข้อมูลจากนอกลูกโซ่ (Off-chain) ให้เข้าไปในบล็อกเชนปลายทาง (On-chain) โดยคิดค่าบริการผู้ใช้งาน ChainLink เป็นเงินสกุล LINK ซึ่งเป็น Token ERC20 ที่มีการจำหน่ายบน Ethereum blockchain

นอกจากนี้ LINK ยังมีการใช้งานฟังก์ชัน “transfer and call” ของ ERC223 ในการโอน  (address, uint256, bytes) ทำให้การรับโทเค็น และ การประมวลผลสัญญาจบลงได้ในธุรกรรมเดียว โดยข้อมูลจากเว็ป coinmarketcap และ แหล่งอื่นๆ ณ สิ้นปี 2018 จำนวนเหรียญสูงสุดของ LINK ถูกจำกัดไว้ที่ 1 พันล้านเหรียญ และ มีเหรียญหมุนเวียนอยู่ทั้งหมด 350 ล้านเหรียญ ซึ่งคิดเป็น 35% เท่ากับเหรียญที่ออกจำหน่ายผ่าน ICO และ Presale, อีก 35% มอบให้กับผู้ให้บริการข้อมูล แรงจูงใจ และ สนับสนุนโหนด และ 30% สุดท้ายเก็บไว้กับทีมเพื่อการพัฒนา การตลาด และ อื่นๆ

ค่าบริการที่ Node Operator คิดนั้นขึ้นอยู่กับทรัพยากรที่ต้องใช้ การฟอร์แม็ตข้อมูล การคำนวณ และ ช่วงเวลาที่ต้องการข้อมูล อย่างไรก็ดีใน ChainLink จะมีระบบชื่อเสียง (Reputation System) ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถโหวตโหนดที่ให้บริการดี และ ตอบสนองต่อการร้องขอบริการได้ เพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้ให้บริการรักษาระดับคุณภาพของบริการ

LINK เป็นเงินคริปโทใน ChainLink ซึ่งเป็นระบบที่ให้บริการฐานข้อมูล Oracle แบบกระจายศูนย์เจ้าแรกที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างข้อมูลธุรกิจกับบล็อกเชน โดยผู้ใช้งานสามารถดึงข้อมูลจาก Application Program Interfaces (APIs) บน Web หรือ Application อื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายฐานข้อมูลของ Oracle เพื่อนำเข้ามาใส่ในบล็อกเชน เพื่อนำไปสร้าง Smart Contract และ นำมาใช้เป็นสัญญาซื้อขาย หรือ ข้อตกลงทางธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จากบล็อกเชนได้ ทำให้สามารถทำงานอย่างได้อย่างอัตโนมัติ และ ปลอดภัย ไม่สามารถปลอมแปลง หรือ เบี้ยวสัญญาได้ และ ยังสามารถชำระเงินด้วย Cryptocurrency สกุลที่ต้องการได้อีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก บิตคับ


เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงเสนอสิทธิประโยชน์ที่ตรงตามความสนใจของคุณมากที่สุด ถ้าคุณยังใช้งานต่อไปโดยไม่ปฏิเสธคุกกี้ เราจะเก็บคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้น ทั้งนี้ คุณสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเราได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายการใช้คุกกี้

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save