Saturday, 23 November 2024

Bitcoin Cash คืออะไร

Bitcoin Cash

Bitcoin Cash คืออะไร Bitcoin Cash หรือ BCH เป็นเหรียญที่มาจากการ Hardfork ของ Bitcoin (BTC) ในการทำธุรกรรมผู้ใช้จึงสามารถใช้ที่อยู่ของ BTC ในการฝากถอนได้ด้วย ซึ่งในตอนแรก BCH ใช้ที่อยู่ในรูปแบบ Legacy ในการทำธุรกรรม แต่ต่อมาทางผู้พัฒนา BCH ได้แยกออกมาเป็น Cash Address เพื่อสร้างความแตกต่าง และ ป้องกันการสับสนระหว่างการทำธุรกรรมของ BTC และ BCH

รูปแบบที่อยู่กระเป๋าสตางค์ของ Bitcoin Cash

Bitcoin Cash หรือ BCH เป็นเหรียญที่มาจากการ Hardfork ของ Bitcoin (BTC) ในการทำธุรกรรมผู้ใช้จึงสามารถใช้ที่อยู่ของ BTC ในการฝากถอนได้ด้วย ซึ่งในตอนแรก BCH ใช้ที่อยู่ในรูปแบบ Legacy ในการทำธุรกรรม แต่ต่อมาทางผู้พัฒนา BCH ได้แยกออกมาเป็น Cash Address เพื่อสร้างความแตกต่าง และ ป้องกันการสับสนระหว่างการทำธุรกรรมของ BTC และ BCH

Address format ของ BCH หลัก ๆ จึงมี 2 รูปแบบ ได้แก่

  • Legacy format คือ wallet address แบบเก่า ที่ขึ้นต้นด้วยเลข 1 หรือ 3
  • Cash address format (CashAddr) คือ wallet address แบบใหม่ โดยจะมีคำว่า bitcoincash: ขึ้นต้น หรือ ไม่มีก็ได้

ทั้งนี้ ทุก Legacy address จะมี Cash address เป็นของตัวเองเช่นกัน สังเกตได้จากเวลาเรานำหมายเลขกระเป๋า BTC ไปค้นหาบน blockchain.com ระบบจะถามว่าเราต้องการดู BTC address หรือ BCH address เสมอ

ทำไมถึงใช้ที่อยู่แบบ Legacy ทำรายการไม่ได้ในบาง Exchange

ในกรณีที่ท่านพบว่า ท่านไม่สามารถถอน BCH ไปยังกระเป๋าที่มีที่อยู่แบบ Legacy ได้ เนื่องจากระบบของเว็บไซต์ และ แอปพลิเคชันดังกล่าวไม่สามารถตรวจสอบ (Detect) ว่าเป็นรูปแบบกระเป๋าที่ระบุนั้นเป็นของ BCH จริงหรือไม่ ระบบจึงระงับการทำรายการผ่านที่อยู่ที่ไม่ใช่รูปแบบตามที่กำหนด

ในกรณี แนะนำให้ท่านสอบถามไปยังผู้ให้บริการของกระเป๋า Legacy นั้น ๆ ว่า หากท่านนำหมายเลขกระเป๋าแบบ Cash address format ของกระเป๋า Legacy นั้นมาทำธุรกรรมแล้ว จะสามารถได้รับเหรียญตามปกติหรือไม่ หากทำได้ท่านก็สามารถใช้ที่อยู่แบบ Cash address ของ Legacy address นั้น ๆ ในการทำธุรกรรมได้เลย

Bitcoin Cash คืออะไร

Bitcoin Cash เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2560 ซึ่งเป็นผลมาจากการทำ Hard fork* ของ Bitcoin ซึ่งทำให้เกิดบล็อกเชน และ สกุลเงินคริปโตตัวใหม่ขึ้นมา

แล้วทำไมถึงต้องมีการทำ Hard fork และ อะไรที่เป็นจุดด้อยของ Bitcoin?

ในช่วงแรกๆ การทำงานของ Bitcoin นั้นค่อนข้างที่จะเร็วเพราะยังไม่มีการทำธุรกรรมที่มากนัก แต่เมื่อมันได้รับความนิยมมากขึ้นการทำงานก็ช้าลง เนื่องจากขนาดของบล็อกที่จำกัดไว้ที่ 1MB ในปี 2560 เกิดเหตุการณ์ที่คนใช้งานต้องรอนานถึง 3 วันในการตรวจสอบการโอนถ่าย Bitcoin วิธีหนึ่งที่จะทำให้การโอนเร็วขึ้นคือการจ่ายค่าธรรมเนียมการโอนมากขึ้น แต่นั้นก็เป็นการขัดต่อจุดประสงค์ที่ทำให้มีเหรียญนี้ตั้งแต่แรก ยกตัวอย่างเช่น หากเราต้องการซื้อกาแฟในราคา 4 ดอลลาร์ แต่เรากลับต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับบริการถึง 16 ดอลลาร์ ซึ่งผู้ใช้ยอมรับไม่ได้แน่นอน จึงนำมาสู่ทางออก 2 ข้อ ได้แก่ Bitcoin Unlimited และ Segregated Witness (SegWit)

เจ้าของแนวคิด Bitcoin Unlimited เสนอว่าให้ยกเลิกการจำกัดขนาดของบล็อกโดยมีนักขุดเป็นผู้สนับสนุนหลักเนื่องจากเงินโดยรวมที่นักขุดได้จะเพิ่มขึ้นในทุกๆ บล็อก แต่ปัญหาหนึ่งของข้อเสนอนี้คือ นักขุดรายใหญ่จะสามารถรวมพลังการขุดกันซึ่งอาจทำให้เครือข่ายนี้ตกเป็นของบริษัทขุดยักษ์ใหญ่ได้

วิธี SegWit มีแนวคิดหลักที่ว่า ข้อมูลทุกอย่างไม่จำเป็นต้องถูกเก็บในบล็อกเชน โดยบางอย่างสามารถเก็บไว้ในไฟล์แยกได้ ซึ่ง Bitcoin Cash ได้นำ 2 แนวคิดนี้มาผสมรวมกัน โดยเพิ่มขนาดบล็อกเป็น 8MB และเก็บข้อมูลบางส่วนไว้นอกบล็อกเชน ซึ่งภายหลังการแยกตัวนี้ทำให้ทุกคนที่ถือ Bitcoin ณ ตอนนั้นได้รับเหรียญ Bitcoin Cash เท่ากับจำนวนของ Bitcoin ที่ถืออยู่ด้วย และข้อมูลก็ถูกบันทึกลงในบล็อกเชนของ Bitcoin Cash เหตุผลที่เป็นแบบนี้ก็เพื่อที่จะรักษามูลค่าของ Bitcoin Cash ในช่วงการเปลี่ยนแปลงขณะที่เปิดตัว Bitcoin Cash เป็นคริปโทเคอเรนซีสกุลใหม่ในเวลานั้น

Bitcoin Cash คืออะไร และ Hard Fork คืออะไร

Hard fork คือ การที่บล็อกเชนหนึ่งแยกตัวออกมาเป็นอีกบล็อกเชนหนึ่งอย่างถาวรโดยมีกฎต่างๆ ที่ต่างไปจากเดิมบล็อกเชนดั้งเดิม โดยผู้เข้าร่วมหรือนักขุดจะต้องอัปเกรดซอฟต์แวร์สำหรับการใช้งาน และ ตรวจสอบธุรกรรมของบล็อกเชนใหม่นี้

ในส่วนของบล็อกเชนของ Bitcoin Cash นั้น ตัวบล็อกเชนไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ เนื่องจากบล็อกเชนใช้ประวัติการทำธุรกรรมของ Bitcoin ก่อนการ hard fork และธุรกรรมใหม่ๆ ของ Bitcoin Cash จะถูกบันทึกไว้ในอีกบล็อกเชนของมันเองซึ่งใช้กฎใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

เทคโนโลยีเบื้องหลัง Bitcoin Cash

คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย Bitcoin เรียกว่า “node” และถ้าไม่มี node ก็จะไม่มี Bitcoin Cash

เมื่อมีการทำธุรกรรม node เหล่านี้จะจัดกลุ่มธุรกรรมเข้าด้วยกันโดยเรียกมันว่า “บล็อก” ซึ่งแต่ละบล็อกจะถูกเพิ่มเข้าไปยังบล็อกเชน โดย Bitcoin Cash จะเพิ่มบล็อกใหม่ในทุกๆ 10 นาที

การแฮกหรือดัดแปลงข้อมูลในบล็อกนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากแต่ละบล็อกจะถูกเข้ารหัสและตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งทำให้การเปลี่ยนแปลงข้อมูลนั้นเป็นไปไม่ได้ และ node ส่วนใหญ่จะเป็นเสียงข้างมาก

Bitcoin Cash คืออะไร และ การขุด Bitcoin Cash

การขุดในทางบล็อกเชน หมายถึง กระบวนการเพิ่มบล็อกไปยังห่วงโซ่ (chain) และผู้ขุดหรือนักขุดก็จะได้รับเหรียญที่สร้างขึ้นมาใหม่ และ node ในเครือข่ายจะสร้าง hash ที่ถูกต้องเพื่อรักษาความปลอดภัยของแต่ละบล็อกในบล็อกเชน

Hash คือตัวเลขที่เรียงเป็นแถวยาวมากๆ ซึ่งถูกสร้างโดยกระบวนการ cryptograph ซึ่งอิงจากขนาดของไฟล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบล็อก ซึ่งมันก็จะพิสูจน์ว่าบล็อกถูกต้องและไม่เคยถูกดัดแปลงหรือแฮก กระบวนการ cryptograph นี้เรียกว่า “Proof of Work” ซึ่งแนวคิดสำคัญคือมันสามารถใช้ตรวจสอบได้ว่าข้อมูลไม่ได้ถูกดัดแปลง

อนาคตของ Bitcoin Cash

ในอดีต เราได้เห็นการ Hard fork ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วหลายครั้ง สำหรับ Bitcoin Cash ที่แยกตัวออกมานี้ ราคามีความผันผวน (หรือภาษาที่เราเรียกกันคือ “เหวี่ยง”) อยู่มาก แต่มูลค่าของมันก็ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน จนได้กลายมาเป็นคริปโทเคอเรนซี่ที่น่าเชื่อถือสกุลหนึ่งเลยทีเดียว และมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากได้ออกมาสนับสนุน Bitcoin Cash ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีในการลงทุน

มันไม่ง่ายเลยสำหรับคริปโทเคอเรนซี่จะอยู่รอดในตลาด มีเพียงแค่คริปโทเคอเรนซี่ที่มีพื้นฐานที่แข็งแรงเท่านั้นที่จะสามารถอยู่รอดในระยะยาว ภายใต้การแข่งขัน ข้อกำหนดต่างๆ และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า Bitcoin Cash จะเป็นหนึ่งในนั้นได้หรือไม่

ขอบคุณข้อมูลจาก บิตคับ


เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงเสนอสิทธิประโยชน์ที่ตรงตามความสนใจของคุณมากที่สุด ถ้าคุณยังใช้งานต่อไปโดยไม่ปฏิเสธคุกกี้ เราจะเก็บคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้น ทั้งนี้ คุณสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเราได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายการใช้คุกกี้

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save