ไหว้เจ้าที่ตี่จู้เอี๊ยะ คือ ศาลเจ้าที่ในบ้านตามความเชื่อของคนไทยเชื้อสายจีน ด้วยการอัญเชิญเทพเจ้าแห่งพื้นดิน มาประทับไว้ในศาลที่ขนาดเล็กที่วางไว้ติดกับพื้นดินภายในบ้าน เมื่อคนในบ้านมีเรื่องทุกข์ร้อนใจ หรือ มีกิจกรรมที่ต้องตัดสินใน ก็จะมาจุดธูปแจ้งบอกกับเจ้าที่ เพื่อให้กิจกรรมนั้นดำเนินไปอย่างราบรื่น
การสร้างศาลขึ้นมาให้เทพเจ้าแห่งผืนดิน “ถู่ตี้กง” สถิตของชาวไทยเชื้อสายจีนนั้น มีตำนานมายาวนาน คาดว่านับ 1,000 ปี ชื่อของเทพเจ้าแห่งผืนดินนี้มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปตามมณฑลที่กว้างขวางของประเทศจีน
ตำนานกำเนิดตี่จู้เอี๊ยะ
ตำนานเทพเจ้าถู่ตี้กง ความเชื่อของชาวจีนในอดีต ฮ่องเต้คือบุตรของพระเจ้า สามารถแต่งตั้งสถาปนาเทพได้ ในรัชสมัยฮ่องเต้พระองค์หนึ่งได้แต่งตั้งเทพเจ้าจากศาลบูชาฮกเต็กของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เป็นเทพโหวโท่ว หรือ ถู่ตี้กง มีความหมายว่าเทพเจ้าแห่งผืนดิน ตำนานของเทพองค์นี้ เป็นผู้ที่มีความกตัญญู ตามตำนานการกำเนิดตี่จู่เอี๊ยะ เล่าว่าหมู่บ้านแห่งหนึ่งมีพิธีกรรมไหว้เทพเจ้าด้วยการตั้งศาลฮงเต็ก ภายหลังหมู่บ้านแห่งนี้มีผู้ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ปลูกพืชผลงอกงามได้ผลผลิตดี ทำให้ศาลนี้มีชื่อเสียงไปทั่วทุกแคว้น เศรษฐี ขุนนาง ก็สร้างศาลเชิญเทพเจ้าองค์นี้ไปบูชากันทุกๆ บ้าน จนทราบถึงฮ่องเต้องค์หนึ่ง เมื่อท่านสถาปนาเทพเจ้าถู่ตี้กง ก็มีคนเคารพนับถือกันมาก
ถู่ตี้กง เป็นเทพเจ้าที่เชื่อว่าเดินทางไปได้ทั้งบนสวรรค์ ฟ้า ดิน แม้ว่าท่านจะเป็นเทพที่อยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์ แต่ก็ไม่ควรดูหมิ่นท่าน เชื่อว่าเทพและวิญญาณต่างๆ หากท่านไม่อนุญาตก็จะไม่ให้ใครเข้ามาในบ้านได้เลย รวมถึงคนในบ้านเองหากดูหมิ่นดูแคลน ก็จะทำมาหากินไม่ขึ้น
ตำนานถู่ตี้กงที่เชื่อว่ามีตัวตนจริง เป็นเรื่องที่เล่าต่อกันมาว่าท่านเกิดในรัชสมัยราชวงศ์จิว มีชื่อว่า “เตียเม่งเต็ก” เป็นผู้รับใช้ขุนนางผู้หนึ่ง เตียเม่งเต็กมีหน้าที่ดูแลขุนนางผู้นั้น ครั้งหนึ่งเมื่อนายถูกเรียกเข้ารับราชการที่วังหลวง เตียเม่งเต็ก มีหน้าที่แบกธิดาของขุนนางเพื่อตามมาทีหลัง ระหว่างทางเกิดพายุหิมะ เขาได้ถอดเสื้อสวมให้กับธิดาของขุนนางเพื่อให้เธอรอดปลอดภัยจากความหนาวเหน็บ เตียเม่งเต็กเสียชีวิตระหว่างทาง ภายหลังมีคนมาพบเห็นธิดาของขุนนางและช่วยชีวิตไว้ เธอซาบซึ้งในบุญคุณของเตียเม่งเต็ก จึงสร้างศาล “ฮกเต็ก” ไว้ในบ้าน เพื่อระลึกถึงความกตัญญูและความเสียสละต่อเจ้านาย
ชาวจีนที่นับถือศาลฮกเต็ก เมื่อเดินทางไปยังสถานที่ใด ก็จะจุดธูปกล่าวบูชา นำวัสดุที่พบมาตั้งเป็นศาล เช่น หิน 3-4 ก้อน มาสร้างเป็นศาลเล็กๆ แล้วจุดเทียน 1 คู่ จุดธูป 5 ดอก บอกกล่าวท่านเจ้าที่ว่าจะทำกินบนผืนดินนี้ ขอให้เพาะปลูกงอกงาม ภายหลังเมื่อค้าขายรุ่งเรืองแล้วก็สร้างศาลขึ้นในบ้านตามฐานะ เปลี่ยนวัสดุเป็นไม้ หิน หินอ่อน ตามความเหมาะสม
เมื่อชาวจีนอพยพไปอยู่ดินแดนต่างๆ ก็นำความเชื่อและศรัทธาของตนมาด้วย ความเชื่อเรื่องการตั้งศาลเจ้าที่ในชุมชนและในบ้านเรือนนั้น หากสร้างศาลเจ้าในบ้าน จะเรียกว่า “ตี่จู่เอี๊ยะ” คล้ายกับศาลเจ้าที่ในบ้านเรือนของคนไทย แต่หากเป็นศาลเจ้าที่ผู้คุ้มครองชุมชน จะเรียกศาลนี้ว่า ศาลถู่ตี้กง
ไหว้เจ้าที่ตี่จู้เอี๊ยะ หลักการตั้งศาล
สำหรับทิศทางการตั้งศาลตี่จู่เอี๊ยจะต้องตั้งให้ติดดินเพื่อให้เทพเจ้าได้รับพลังานจากธาตุดิน แต่ก็ตั้งตามหลักทั้ง 4 หลักดังนี้
- ทิศด้านหลังของตี่จู่เอี๊ย : ไม่ควรอยู่ใกล้ติดประตู บันได ห้องน้ำ ห้องครัว รวมถึงบริเวณที่มีเตาไฟ ควรที่จะตั้งพิงใดด้านหนึ่งโดยไม่มีการเคลื่อนย้ายไปไหน
- ทิศด้านหน้าของตี่จู่เอี๊ย : ต้องอยู่ในบริเวณพื้นที่โล่งๆรวมถึงอยู่ในจุดที่มีแสงสว่างมากเพียงพอ เพื่อเอาไว้เปิดรับโชคลาภต่าง ๆ
- ทิศด้านบนของตี่จู่เอี๊ย : ต้องไม่อยู่บริเวณคานบ้านและต้องไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นวางอยู่เหนือ ไม่เช่นนั้นศาลตี่จู่เอี๊ยจะถูกพลังเหล่านั้นกดทับจนพลังลดน้อยลง
- ทิศด้านใต้ของตี่จู่เอี๊ย : ต้องเป็นพื้นธรรมดาไม่มีฐานรอง หรือหากหาแผ่นเงิน แผ่นทอง หรือเพชรนิลจินดามาใส่ไว้ด้านใต้ได้ จะช่วยเสริมพลังให้เทพเจ้า นั้นเพราะว่าสิ่งของจำพวกนั้นถือเป็นธาตุดิน
เจ้าบ้านหรือตัวแทน เป็นผู้นำพิธี ผู้เข้าร่วมพิธีเตรียมตัวชำระร่างกายให้สะอาด สวมเสื้อผ้าชุดใหม่ เปิดไฟทุกดวงในบ้าน เปิดประตูหน้าต่างทุกบาน ยกเว้นห้องน้ำ และห้ามพูดจาหยาบคายและห้ามทะเลาะกันในวันดีนี้
พิธีเชิญตี่จู้เอี๊ยะ
- อันดับแรก ชำระร่างกายให้สะอาด จากนั้นแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ตั้งโต๊ะทำพิธีไว้บริเวณหน้าบ้าน โดยคนที่จะเชิญจะต้องเจ้าของบ้านหรือผู้อาวุโสในบ้านเท่านั้น จากนั้นกล่าวคำว่า “ข้าพเจ้า ขอมอบให้ (ชื่อผู้ทำการแทน) เป็นผู้ทำการเชิญตี่จู้เอี๊ยะเพื่อมาสถิตย์อยู่ในบ้านนี้แทนข้าพเจ้า”
- จากนั้นผู้อันเชิญ จุดเทียนและธูป 5 ดอก แล้วคุกเข่าที่โต๊ะบูชาเทพยาดาฟ้าดินที่อยู่หน้าบ้าน พร้อมกับกล่าวเปล่งเสียงดังว่า “วันนี้ เป็นวันที่… ซึ่งเป็นวันมงคลของข้าพเจ้า …. เป็นเจ้าของบ้าน/ผู้อาวุโสของบ้าน/ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้ทำการเชิญองค์ตี่จู้เอี๊ยะ
- บ้านเลขที่…. ขออัญเชิญองค์เทพยาดาฟ้าดินมาเป็นสักขีและเป็นประธานในการทำพิธีตั้งตี่จู้เอี๊ยะ ในวันนี้ ขอให้องค์เทพยาดาฟ้าดินช่วยนำองค์ตี่จู้เอี๊ยะที่ศักดิ์สิทธิ์และมีบารมีสูงส่งเพื่อมาสถิตย์อยู่ ณ เคหสถานที่ได้ตระเตรียมไว้นี้ เพื่อมาปกปักรักษาคุ้มครองเจ้าของบ้านและสมาชิกทุกคนที่อยู่ในบ้าน ให้มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์พูนสุข มั่งคั่ง ร่ำรวย และโชคดีตลอดไป
- หลังกล่าวจบปักธูปทั้ง 5 ดอกลงในกระถางธูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ รอจนกว่าธูปเหลือครึ่งดอก ถึงจะเดินเข้ามาในบ้านเพื่อจุดเทียนแดงและธูป 5 ดอกที่ตี่จู้เอี๊ยะ
- จากนั้นวถือธูปเดินออกมาคุกเขาต่อหน้าโต๊ะบูชาเทพยดาฟ้าดินหน้าบ้านอีกครั้งหนึ่ง แล้วเปล่งเสียงดังว่า “บัดนี้ได้ถึงเวลาอันเป็นมงคลแล้ว ขออัญเชิญองค์ตี่จู้เอี๊ยะเข้าสู่เคหะสถานที่ตระเตรียมไว้นี้ เพื่อปกปักรักษาคุ้มครองทุกคนในบ้านให้มีความสุขตลอดไป”
- ขั้นสุดท้าย ผู้อัญเชิญนำธูปทั้ง 5 ดอก มาปักที่กระถางธูปของตี่จู้เอี๊ยะ จากนั้นให้สมาชิกทุกคนในบ้านแนะนำตัวเองด้วยการ บอกชื่อและนามสกุล อายุ อาชีพ เมื่อที่คนในบ้านกล่าวเสร็จ ให้คนทำพิธีเอ่ยชื่อเครื่องสักการะบูชาทั้งหมด เพื่อเชิญองค์ตี่จู้เอี๊ยะมารับเครื่องสักการะบูชา จากนั้นกลับออกมาคุกเข่า กราบของคุณเทพยดาฟ้าดิน เป็นอันจบพิธี
แนวทาง ไหว้เจ้าที่ตี่จู้เอี๊ยะ
ปกติแล้วการไหว้บูชาตี่จู่เอี๊ยจะ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท นั้นคือ 1.การไหว้ประจำวัน 2.การไหว้ตามวันพระจีน โดยจะแบ่งรายละเอียดได้ดังนี้
วิธีไหว้ตี่จู่เอี๊ยประจำวัน
- อันดับแรกเตรียมของไหว้ได้แก่ 1.น้ำชา 5 ถ้วย 2.น้ำเปล่า 3 ถ้วย 3.กระดาษไหว้ 1 ชุด
- จากนั้นจุดธูป 7 ดอก ไหว้เคารพเจ้าที่ในบ้านเป็นลำดับแรก จากนั้นขอพร แล้วปักธูปลงกระถาง
- จากนั้น นำกระดาษไปเผาในถังเผาบริเวณหน้าบ้าน โดยห้ามเขี่ยขี้เถ้าในถังเด็ดขาด ต้องให้กระดาษมอดไปเองเท่านั้น
วิธีไหว้ตี่จู่เอี๊ยตามวันพระจีน
- อันดับแรกเตรียมของไหว้ได้แก่ น้ำชา 5 ถ้วย น้ำเปล่า 3 ถ้วย ขนมกูไช่สีแดง ส้ม 5 ลูก กระดาษไหว้ 1 ชุด
- จากนั้นจุดธูป 7 ดอก ไหว้เคารพเจ้าที่ในบ้านเป็นลำดับแรก จากนั้นขอพร แล้วปักธูปหน้าบ้านเสร็จให้รอสักพัก
- จากนั้นทำการลาของไหว้และกระดาษให้เรียบร้อย
ของไหว้องค์ตี่จู่เอี๊ยที่นิยม
- กระถางธูป ที่ในกระถางมีขี้เถ้าเอาไว้ปักธูป พยายามหากระถางขนาดใหญ่ เพื่อทำให้สามารถใส่ธัญพืชทั้ง 5 อย่างได้ ดังนี้ 1.ข้าวสาร 2.ข้าวเหนียวแดง 3.เมล็ดถั่วเขียว 4. เมล็ดถั่วแดง 5.เม็ดสาคู โดยใส่รวมลงในกระถาง
- ผ้าแดง (อั่งติ้ว) สำหรับติดไว้ที่ตรงกระถาง เพื่อสื่อความหมายไปในทางที่เป็นสิริมงคล
- เหรียญ 10 บาท จำนวน 5 เหรียญ และวางไว้ในกระถางธูป
- แจกันที่ใส่ดอกไม้สด 1 คู่
- ถ้วยน้ำชา 5 ถ้วย
- ถ้วยเหล้า 5 ถ้วย
- ธูป 5 ดอก
- ฮวกก้วยหรือขนมถ้วยฟูของคนจีน 1 ชิ้น
- ขนมอี้หรือสาคูแดง 5 ถ้วย
- ขนมจันอับ
- เจฉ่าย
- ซาแซ หรือ โหง่วแซ (ซาแซ คือ การจัดของไหว้แบบชุดเล็กมี 3 อย่าง หากเป็นของคาว 3 อย่างจะเรียกว่า “ซาแซ” ของหวาน 3 อย่างจะเรียกว่า “ซาเปี้ย” และผลไม้ 3 อย่างจะเรียก “ซาก้วย” หรือจะมีของไหว้เพียงอย่างเดียวก็ได้ ส่วนโหง่วแซ คือ การจัดของไหว้แบบชุดใหญ่มี 5 อย่าง ดังนี้ ไก่ หมู ตับ ปลา และกุ้งมังกร)
- ผลไม้มงคล 5 อย่าง เช่น ส้ม สับปะรด องุ่น กล้วย และลูกท้อ เป็นต้น
- ข้าวสวย 5 ถ้วย
ไหว้เจ้าที่ตี่จู้เอี๊ยะ ข้อห้าม
- หลีกเลี่ยงการถวายอาหารที่บูดเสียง่ายแก่ท่านเจ้าที่ เช่น ข้าวสวย เป็นต้น เพราะคนจีนนั้นถือเคล็ดว่า เงินทองที่หามาได้อย่างยากลำบากนั้น จะอยู่ได้ไม่นาน ต้องมีเหตุให้เสียเงินเสียทองโดยเปล่าประโยชน์
- ห้ามบุคคลต่อไปนี้เข้ามากราบไหว้ท่านจู่เอี๊ยะกง อันได้แก่ ครอบครัวที่มีการจัดงานศพอยู่ และมีหญิงที่เป็นประจำเดือน
สัตว์มงคลในศาล
- หลังคามังกร ม่านมังกร เสามังกร และฐานมังกร หมายถึง ความเป็นสิริมงคลที่ดีที่สุด ทรงอำนาจบารมี ยิ่งใหญ่ มั่นคง และมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์
- มุมหลังคาหงส์มงคลด้านหลัง หมายถึง ความสง่างาม อ่อนหวาน สุภาพเป็นผู้ดี
- ประตูชัยปลาหลีฮื้อ หมายถึง การประสบความสำเร็จ
- มุมหลังคาปลาหลีฮื้อ หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่ง และมั่นคง
- รั้วกิเลนคู่ด้านหน้า หมายถึง เมตตาปราณี จิตใจดี หากเป็นคนจิตใจดี กิเลนจะช่วยเหลือ แต่ถ้าเป็นคนจิตใจชั่วร้าย กิเลนไม่ตอบรับ อีกทั้งกิเลนช่วยสลายพลังปราณชี่พิฆาต และเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีได้