ABT คือเหรียญอะไร ABT เป็นตัวย่อในการเทรดของ ArcBlock Tokens ใน ArcBlock ซึ่งเป็นบริการแพล็ตฟอร์ม blockchain ที่สนับสนุนการใช้ Cloud computing, Nodes ใน ArcBlock สามารถใช้เครื่องตรรกะ หรือ เครื่องเสมือน (Logical or Virtual Machine) แทนเครื่องกายภาพได้ ArcBlock มีการขุด/การทำเหมือง (Mining)
เป็นกลไกจูงใจในการให้บริการคลาวด์ของตน ทั้งในการขุดด้านทรัพยากร และ ด้านองค์ประกอบ (Components) ของระบบ ซึ่งผู้ขุดจะได้รับเงินรางวัลผ่านทางสัญญาสมาร์ท (Smart Contract)
ABT คือเหรียญอะไร
ABT เป็นตัวย่อในการเทรดของ ArcBlock Tokens ใน ArcBlock ซึ่งเป็นบริการแพลตฟอร์มบล็อกเชน ที่สนับสนุนการใช้ Cloud Computing และ Nodes ซึ่งใน ArcBlock สามารถใช้เครื่องมือตรรกะ หรือ เครื่องเสมือน (Logical or Virtual Machine) แทนเครื่องกายภาพได้ ArcBlock มีการขุด และ การทำเหมือง (Mining) เป็นกลไกจูงใจในการให้บริการคลาวด์ของตน ทั้งในการขุดด้านทรัพยากร และ ด้านองค์ประกอบ (Components) ของระบบ ซึ่งผู้ขุดจะได้รับเงินรางวัลผ่านทางสัญญาสมาร์ท (Smart Contract)
องค์ประกอบสำคัญของ ArcBlock คือ Abstract Layer: Open chain access Protocol และ Blocklets ซึ่งเป็น แอปพลิเคชัน Microservice ที่สามารถปรับแต่งได้แบบไม่มีเซิร์ฟเวอร์ ที่อยู่ตรงกลางซึ่งช่วยให้ App ของผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง blockchain ใดๆ ก็ได้ ช่วยในการเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูล, จัดการประมวลผลแบบทั้งบนโซ่ และ นอกโซ่ (On-Chain & Off Chain), รองรับตรรกะที่ซับซ้อนเมื่อถูกกระตุ้นด้วยเหตุการณ์ (Event Triggered) รวมถึง Smart Contracts อีกด้วย การเชื่อมต่อระหว่าง App ของผู้ใช้ และ Blockchains จะใช้องค์ประกอบ (Component) Pub/Sub API Gateway และ Chain Adapters ณ ปลายจุดเชื่อมต่อนั้นๆ โดย ArcBlock ได้กำหนดเป้าหมายในการทำธุรกรรมไว้ที่ 100,000 ครั้งต่อวินาที
ABT เทียบกับเหรียญอื่น
ArcBlock Token ถูก Implement ด้วย Blocklet และ บัญชีสาธารณะทั้งหมด ABT เป็นโทเค็น ERC-20 แบบ 1:1 ซึ่งหมายความว่าการพัฒนาจะขึ้นกับชุมชนของ Ethereum ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถใช้ประโยชน์จากระบบเดิมที่มีอยู่แล้วได้ ABT เป็นโทเค็นอรรถประโยชน์ที่ใช้จ่ายค่าบริการ ArcBlock ในลักษณะเดียวกับบริการ Cloud Computing
ArcBlock ไม่มีการจ่ายค่าทำธุรกรรมเหมือนใน Ethereum หรือ Bitcoin แต่ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันจะต้องจ่ายค่าทำธุรกรรมตามการใช้งานของผู้ใช้งานของตน นักพัฒนาซอฟต์แวร์จะถูกบังคับให้ฝาก ABT จำนวนหนึ่งเมื่อจำเป็นต้องให้บริการในขั้นวิกฤต แต่ในทางตรงกันข้ามนักพัฒนาซอฟต์แวร์ก็สามารถสร้างโทเค็น หรือ ออกเงินสกุลใหม่ของตน ที่สืบทอดคุณสมบัติทั้งหมดจาก ABT เพื่อสร้าง Token ทางเศรษฐกิจใหม่ได้บน ArcBlock ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ArcBlock ยังมีตลาด (Marketplace) ที่ทำงานบนบล็อกเชน แบบกระจายศูนย์ สำหรับการซื้อขายองค์ประกอบ (Component) ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น Chain Adapters, Blocklets และ แอปพลิเคชันต่างๆ เป็นต้น
การกระจายเหรียญของ ABT
จาก Whitepaper, ico-check.com, coinmarketcap.com และ แหล่งข้อมูลอื่น ๆ ในท้ายปี 2018:
- จำนวนเหรียญทั้งหมด ABT 100%: 186,000,000 ABT, ~ 52% ปริมาณการไหลเวียน: 97,688,685 ABT
- 45% ขายให้กับสาธารณะ: 83,700,000 ABT
- 15% สำรองไว้กับทีมของ ArcBlock : 27,900,000 ABT
- 40% อื่น ๆ : 74,400,000 ABT
- 32% เป็นรางวัลจูงใจแก่ชุมชน
- 8% การสนับสนุนด้านการตลาด และ พันธมิตร
- Softcap: 12,000 ETH, Hardcap: 37,500 ETH, มูลค่าตลาดหมุนเวียน: 83,210.51 ETH
บทสรุป
Arcblock หรือ ABT จัดว่าเป็นเหรียญดิจิตอลประเภทโทเค่น ประเภทหนึ่งครับ ที่ต้องบอกว่ามีความน่าสนใจ ไม่แพ้เหรียญอื่นๆ เลยทีเดียว เพราะเป็นเหรียญที่มาพร้อมกับจุดเด่นในการใช้งานร่วมกับ Cloud คอมพิวเตอร์ ซึ่งต่างจาก โทเค่นอื่นๆ มากพอสมควรครับ
คือต้องบอกว่า Arcblock นั้นเป็นโทเค่น ที่มาพร้อมกับระบบ Virtual Machine ที่จะสามารถทำให้การใช้งานร่วมกับ Cloud Conputing นั้นมีประสิทธิภาพอย่างมาก โดยทาง Arcblock เองนั้นได้มีการใช้การขุดเหมืองเข้ามาช่วยสร้างแรงจูงใจให้คนหันมาใช้งานระบบมากขึ้นด้วย โดยรางวัลจากการขุดเหมืองนั้นจะมีการแจกจ่ายผู้ขุด ก็ต่อเมื่อมีการทำ Smart Contract เกิดขึ้นครับ
จุดเด่นของ Arcblock นั้นต้องบอกว่าอยู่ที่ระบบ Blocklets และ Open Chain Access Protocol ซึ่งจะเป็นตัวช่วยทำให้แอพพลิเคชั่นของผู้ใช้นั้นสามารถที่จะเข้าถึงบล็อกเชนใดๆ ก็ได้ นอกจากนั้นยังมีความสามารถในการประมวลผลทั้งในและนอกลูกโซ่ , การรองรับการใช้งานแบบ Smart Contract เป็นต้น โดยรวมแล้วจัดว่าเป็นโทเค่นที่น่าใช้งานมากๆ ตัวหนึ่งครับ
นอกจากนั้นแล้ว Arcblock นั้นยังไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมเหมือนกับเงินดิจิตอล หรือโทเค่นอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นจะต้องมีการจ่ายค่าธรรมเนียมตามจริง ตามการใช้งานแอพพลิเคชั่นของตน (คือคนใช้ไม่จำเป็นต้องจ่าย ผู้ให้บริการเท่านั้นที่จะต้องจ่าย)
ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก บิตคับ