เหรียญ OMG คือ เป็นโซลูชันการปรับขนาดที่เปิดตัวโดย Jun Hasegawa และ Ezra Don Harinsut ในปี 2013 บริษัท Omise ที่อยู่เบื้องหลังคือเกตเวย์การชำระเงิน และ ให้บริการทางการเงินในประเทศไทย ญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ ธุรกิจหลักของ Omise คือ การประมวลผลการชำระเงินออนไลน์ แต่จริงๆ แล้วยังมีมากกว่านั้น วันนี้เราจะมาสำรวจข้อมูลแบบเต็มรูปแบบของ OmiseGO
OmiseGo ไม่ได้เป็นเพียงบริการจัดการการชำระเงินใดๆ ซึ่งมีหุ้นส่วนกับบริษัทขนาดใหญ่ไม่กี่แห่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่นห นึ่งในบริษัทขนาดใหญ่เหล่านี้ คือ แมคโดนัลด์ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2020 OmiseGo ได้ทำการรีแบรนด์ และ เปลี่ยนเป็น Mainnet นับแต่นั้นเป็นต้นมา ก็รียกว่า OMG Network
เหรียญ OMG คือ อะไร
ผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า 400 ล้านคน ไม่สามารถเข้าถึงการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านธนาคารได้ เนื่องมาจากระบบการชำระเงินระหว่างภูมิภาคที่ยังไม่สมบูรณ์แบบ OmiseGo เป็น Exchange ที่กระจายอำนาจ (พร้อมด้วย e-wallet) ที่ระบุถึงปัญหาด้านการประสานงานระหว่างการถ่ายโอนมูลค่าระหว่างเงิน สินทรัพย์ชนิดต่างๆ การโอนระหว่างประเทศ และ ระหว่างบริษัทต่างๆ ด้วยระบบเครือข่ายของ OmiseGo ผู้คนจะสามารถทำธุรกรรมทางการเงินแบบเพียร์ทูเพียร์ (peer-to-peer) ได้ ตัวอย่างเช่น การชำระเงิน การส่งเงิน การจ่ายเงินเดือน หรือ โปรแกรมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (Loyalty Program) เป็นต้น
OmiseGo เป็นบล็อกเชนบนแพล็ตฟอร์ม Ethereum ที่มีโปรโตคอลเป็น Exchange แบบกระจายศูนย์ (Decentralized Exchange) และ แพล็ตฟอร์มการจ่ายเงิน (e-wallet) OmiseGo ทำงานผ่านขอบเขตอำนาจศาล (Jurisdiction) และองค์กรต่างๆ ผ่านเงินแบบธนบัตร (Fiat) และ สกุลเงินที่กระจายอำนาจ ดังนั้นแล้วเทคโนโลยีนี้สามารถช่วยให้ผู้คนสามารถรับ และ ส่งเงิน หรือ แลกเปลี่ยนเงินด้วยต้นทุนที่ถูกลง ไม่ว่าจะเป็นเงินแบบธนบัตร (fiat) หรือ คริปโทเคอเรนซีก็ตาม
คุณสมบัติของ OMG
OmiseGo (OMG) มีคุณสมบัติเฉพาะตัวดังนี้
- ความสามารถในการเพิ่มขยาย (Scalability): OmiseGo สามารถขยายสเกลได้ไม่จำกัดโดยอาศัยสถาปัตยกรรมแบบพลาสม่า (Plasma architecture) อีกทั้ง platform ยังสามารถทำการชำระเงินได้ทันที และ มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ
- การเข้าถึง (Accessibility): ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งาน Exchange ของ OmiseGo ได้โดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคาร
- ความปลอดภัย (Security): OmiseGo ให้บริการดูแลสกุลเงินที่กระจายอำนาจ (Decentralized Currency) และ เฟียตโทเคนที่กระจายอำนาจ (Decentralized Fiat Token)
เหรียญ OMG คือ และ การทำงาน
มี 2 โปรดักส์หลักๆ ที่ทำให้ระบบ (Ecosystem) ของ OmiseGo ทำงานได้ คือ บล็อกเชนแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Blockchain) และ กระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet)
ในการที่จะรับส่งสกุลเงิน และ สินทรัพย์ใดๆ บนเครือข่ายบล็อกเชนของ OmiseGo จะรวม Exchange แบบกระจายอำนาจ (Decentralized Exchange) เข้าไปในระบบ เพื่อให้สินทรัพย์ หรือ สกุลเงินหนึ่งสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ หรือ สกุลเงินอื่นๆ ได้ในเวลาเดียวกัน OmiseGo แตกต่างจากเครือข่ายแบบรวมอำนาจตรงที่จะไม่เก็บข้อมูลหรือ จัดการเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวไว้ โดย OmiseGo มีระบบบล็อกเชนแบบ Proof-of-Stake (PoS) ที่สามารถเพิ่มขยาย และ มีความปลอดภัย เพื่อที่จะสามารถสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ได้หลากหลายชนิด บล็อกเชนของ OmiseGo จะถูกเก็บ และ ตรวจสอบโดย Node หลายๆ ตัว ออร์เดอร์ทุกออร์เดอร์จะอยู่บน Exchange แบบกระจายอำนาจ (Decentralized Exchange) คล้ายๆ กับของ Bitcoin และ Ethereum นอกจากนั้นจะต้องถูกตรวจสอบโดยอาศัยคอนเซนซัสอย่างต่อเนื่องโดยผู้ถือสเตค (Stake) ของ OmiseGo เพราะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ PoS ที่ระบุว่าผู้ตรวจสอบต้องมีส่วนได้เสีย (Stake) หรือ มีเหรียญอยู่ในระบบเพื่อที่จะทำการตรวจสอบได้
OmiseGo เป็นสเกลลิ่งโซลูชันที่ถูกออกแบบมาเพื่อสถาปัตยกรรมแบบพลาสม่า (Plasma Architecture) ที่มีโครงสร้างการคำนวณในรูปของ MapReduce ฟังก์ชัน มีการใช้งาน PoS สำหรับโทเคน และ ป้องกันการฉ้อโกงเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการคำนวณ การออกแบบระบบการถอนถูกสร้างมากับระบบเพื่อป้องกันการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ มีการใช้งานรูตเชน (Root Chain) เพื่อเปิดใช้งานธุรกรรมใหม่ๆ ได้อย่างปลอดภัย
เพื่อที่จะสร้างระบบให้สมบูรณ์แบบ OmiseGo ได้สร้างวอลเล็ต Software Development Kit (SDK) ขึ้นมา ในรูปของแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้งานสามารถเก็บ ส่ง รับ เงิน และ สินทรัพย์ที่มีค่าในบล็อกเชนของ OmiseGo และ บล็อกเชนของโปรเจคอื่นๆ เอง และ เมื่อเปิดใช้งานวอลเล็ตแล้วจะทำให้คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานกลายเป็นโนดทันที
SDK เป็นโอเพนซอร์สวอลเล็ตแบบไวท์ลาเบล (white-label open-source wallet) ซึ่งแปลว่า บริษัทสามารถประยุกต์ใช้วอลเล็ตได้หลายวิธี และ ในหลากหลายอุตสาหกรรม การใช้งานวอลเล็ตจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถพัฒนาวอลเล็ตสำหรับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพ โดยไม่มีข้อผูกมัดหรือต้องกล่าวถึง OmiseGo ในโปรดักส์ เพราะ SDK จะเป็นเพียงแค่ฟังก์ชันโปรแกรม นักพัฒนาโปรแกรมสามารถพัฒนา และ ออกแบบโปรดักส์ของตัวเองได้โดยใช้ SDK เพื่อเร่งขั้นตอนการทำงานให้รวดเร็ว อีกทั้งยังประหยัดเงิน และ เวลา นอกจากนี้ยังช่วยหลีกเลี่ยงขั้นตอนต่างๆ ที่อาจติดขัดได้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเพื่อสร้างบล็อกเชนใหม่ทั้งหมดเอง และ การเรียนรู้เพื่อที่จะเข้าใจความซับซ้อนของบล็อกเชนใหม่ทั้งหมด
วอลเล็ตแบบไวท์เลเบล (White-label) ของ OmiseGo เปิดให้ใช้บริการฟรีสำหรับผู้ใช้งานทุกคน และ ทุกๆ ธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นโดย SDK และ จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติบนบล็อกเชนของ OmiseGo
เพิ่มเติมสำหรับความสามารถในการทำงานร่วมกันของ OmiseGo (Interoperability): เครือข่ายของ OmiseGo สามารถทำงานร่วมกับแพล็ตฟอร์มบล็อกเชนของ Bitcoin และ อื่นๆ ผ่านเคลียลิ่งเฮ้าส์ (Clearing House) และ สมาร์ตคอนแทรค (Smart Contract) ได้ นอกจากนี้ยังสามารถทำงานร่วมกับดิจิทัลเฟียตแพล็ตฟอร์มกับเฟียตโทเคนที่มีหลักประกัน (Collateralized Fiat Token) ได้ และ เน็ตเวิร์คของ OmiseGo ยังช่วยให้ลูกค้าสามารถโอนย้ายเงินระหว่างวอลเล็ต และ บล็อกเชนของ OmiseGo ยังเก็บสมุดบัญชีที่รวมมูลค่าของทุกๆ วอลเล็ตไว้อีกด้วย
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- OMG Wallet จะใช้งานผ่านการล็อคอิน Ethereum Wallet เท่านั้น ถ้าหาก ผู้ใช้งานทำ Private Key หาย หรือลืม Password ของ Ethereum Wallet ซึ่งไม่สามารถกู้คืนได้ ดังนั้น OMG Wallet ก็ไม่สามารถกู้คืนได้เช่นกัน เนื่องจาก OMG Wallet เชื่อมกับ Ethereum Wallet
- ถ้าหากพบ Bug ในขั้นตอนการทำธุรกรรมต่าง ๆ บน Blockchain อาจจะทำให้เหรียญ OMG หรือสินทรัพย์อื่น ๆ สูญหายได้
ขอบคุณข้อมูล บิตคับ