สมุนไพรไทยรักษากรดไหลย้อน เป็นภาวะที่กรด หรือ น้ำย่อยในกระเพาะไหลย้อนกลับมาในหลอดอาหาร จนทำให้เกิดการอักเสบของหลอดอาหาร โดยผู้ป่วยจะรู้สึกแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว และ คลื่นไส้ ซึ่งสาเหตุสำคัญหนึ่งมาจากพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่ถูกต้อง และ การใช้ชีวิตที่เร่งรีบในสภาพสังคมปัจจุบัน หากปล่อยให้เกิดอาการเรื้อรัง และ รักษาด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่การเกิดหลอดอาหารอักเสบ แผลที่หลอดอาหาร หรือ หลอดอาหารตีบ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหารได้ แม้โอกาสเกิดจะไม่มากนักก็ตาม
หากเริ่มมีอาการกรดไหลย้อน ควรรีบดูแลตัวเอง และ ปรับพฤติกรรมกันตั้งแต่เนิ่น ๆ หรือ อาจเลือกรับประทานสมุนไพรที่เราทางอินดี้แนะนำ ที่เป็นหนึ่งในวิธีการรักษากรดไหลย้อนให้หายขาดโดยไม่ต้องไปพบแพทย์
อาการ และ สาเหตุ
อาการปวดแสบปวดร้อนกลางอก หรือ ปวดแสบตรงลิ้นปี่ หรือ ยอดอก ยิ่งเวลาหลังทานมื้อหนักอาการจะเป็นมากขึ้น มีอาการแม้เวลานอน หรือ นั่ง บางคนตื่นนอนขึ้นมามีอาการขมคอ เปรี้ยวปาก เสียงแหบ เจ็บคอ แสบลิ้น หรือ บางคนอาจมีอาการขย้อนอาหารอยู่บ่อย ๆ หรือ เรอออกมาเป็นน้ำย่อยรสเปรี้ยว เป็นต้น
- หูรูดหลอดอาหารยังไม่เจริญเต็มที่ หรือ มีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด มีปริมาณกรดค้างอยู่ในหลอดอาหารนานกว่าปกติ จากความผิดปกติในการหลั่งกรด หรือ หลอดอาหารบีบตัวผิดปกติ
- แรงดันในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้หูรูดหลอดอาหารปิดไม่สนิท เช่น การตั้งครรภ์ โรคอ้วน การกินอาหารมากเกินไป กินอาหารแล้วรีบนอนเลย หรือ กินอาหารที่ย่อยยาก และ ค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนาน เช่น อาหารมัน เป็นต้น
ลูกยอ สมุนไพรไทยรักษากรดไหลย้อน
ลูกยอเป็นสมุนไพรพื้นบ้าน มีรสเผ็ดร้อน ช่วยบำรุงเลือดลม ปรับสมดุลฮอร์โมน ช่วยประจำเดือนมาดีขึ้น และ ลดอาการวัยทองได้ เนื่องจากมีไฟโตเอสโตรเจนธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกัน ต้านมะเร็ง
สำหรับประโยชน์ในการบรรเทากรดไหลย้อน ข้อมูลพบว่า ลูกยอช่วยเพิ่มการบีบตัวของหลอดอาหารทำให้หูรูดหลอดอาหารแข็งแรงขึ้น ทำให้อาหารเคลื่อนจากกระเพาะไปสู่ลำไส้เล็กได้ดีขึ้น ป้องกันหลอดอาหารอักเสบจากกรดไหลย้อน ช่วยย่อยอาหาร ขับลม ทำให้อาหารไม่ตกค้าง ไม่เกิดลมในกระเพาะอาหาร ลดการเกิดแรงดันที่ทำให้กรดไหลย้อน เร่งการสมานแผลของกระเพาะอาหาร ลดการอักเสบของกระเพาะอาหารเฉียบพลันจากแอลกอฮอล์
ปัจจุบันได้มีงานวิจัยสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว อาทิ การศึกษาวิจัยในหนู พบว่า “ยอ” ซึ่งมีสารสำคัญคือ สโคโปเลติน (scopoletin) เป็นส่วนประกอบอยู่ด้วยนั้น สามารถลดการอักเสบของหลอดอาหารจากการไหลย้อนของกรดได้ผลดี พอๆ กับยามาตรฐานที่ใช้ในการรักษากรดไหลย้อนคือ รานิติดีน (ranitidine) และ แลนโซพราโซล (lansoprazole) มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านการหลั่งของกรด ต้านการเกิดแผลทำให้การบีบตัวของระบบทางเดินอาหารดีขึ้น มีผลต่อระบบประสาทที่เกี่ยวข้องโดยตรง ลดการหลั่งกรดได้ดีเทียบเท่ากับยา รานิติดีน (ranitidine) และ แลนโซพราโซล (lansoprazole)
น้ำลูกยอ 1-2 ช้อนโต๊ะ ก่อนอาหาร 15-30 นาที เช้า กลางวัน เย็น ลูกยอแคปซูล 1-2 แคปซูล ก่อนอาหาร 15-30 นาที เช้า กลางวัน เย็น ข้อห้ามใช้ ผู้ป่วยโรคหัวใจ และ ผู้ป่วยโรคไต หรือ ผู้ที่ต้องคุมระดับโพแทสเซียม หญิงตั้งครรภ์
ขมิ้นชัน สมุนไพรไทยรักษากรดไหลย้อน
ขมิ้นชัน น่าจะเป็นที่รู้จักกันดีในสรรพคุณมากมายที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เช่น ช่วยรักษาโรคลำไส้อักเสบ ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร กระตุ้นการหลังสารเมือกมาเคลือบกระเพาะอาหาร ยับยั้งการหลั่งน้ำย่อย และ ช่วยสมานแผล
ขมิ้นชัน มีสารประกอบเคอร์คูมิน (curcumin) ช่วยต้านการอักเสบ ต้านการเกิดมะเร็ง และ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยมอีกด้วยขมิ้นชันหาซื้อได้ง่ายทั้งแบบแคปซูล หรือ แบบเม็ด ช่วยให้ง่ายต่อการรับประทาน
ขิง สมุนไพรไทยรักษากรดไหลย้อน
ขิง มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานในร่างกาย ที่สำคัญสามารถช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ในร่างกาย ตั้งแต่อาการคลื่นไส้ ไปจนถึงกรดไหลย้อน
เพียงจิบน้ำขิงอุ่น ๆ สักแก้ว ก่อนรับประทานอาหารประมาณ 20 นาที จะช่วยให้สบายท้องขึ้น และ ยังทำหน้าที่เป็นเหมือนยาลดกรดแบบธรรมชาติ
ขิงมีประสิทธิภาพสูงมากในการบรรเทาปัญหากรดไหลย้อน แนะนำให้รับประทานให้ได้วันละ 1 ช้อนชา สำหรับการบรรเทากรดไหลย้อนอย่างได้ผล และ ยังสามารถหาซื้อได้ง่าย แต่สำหรับผู้ป่วยที่รับประทานยาเบาหวาน และ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ สมุนไพรที่มีความเชื่อว่ามีสารต้านการอักเสบ สามารถใช้ได้ทั้งรับประทาน หรือ ทาที่ผิวหนัง มักใช้รักษาอาการผิวไหม้จากแดด หรือ การระคายเคืองทางผิวหนังที่มีอาการไม่รุนแรง นิยมใช้สารสกัดจากว่านหางจระเข้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม หรือ เครื่องสำอาง และ หลายคนเชื่อว่าน้ำว่านหางจระเข้อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และ กรดอะมิโน มักถูกกล่าวอ้างว่าช่วยล้างพิษในร่างกายและอาจมีคุณสมบัติบรรเทาอาการของกรดไหลย้อนได้
ซึ่งมีการทดลองเกี่ยวกับประสิทธิภาพ และ ความปลอดภัยของน้ำว่านหางจระเข้ในการรักษาโรคกรดไหลย้อน โดยการรับประทานน้ำว่านหางจระเข้ขนาด 10 มิลลิลิตรต่อวัน ยาโอเมพราโซลขนาด 20 กรัมต่อวัน หรือ ยาแรนิทิดีนขนาด 150 กรัมในตอนเช้า และ อีก 150 กรัมเป็นเวลา 30 นาทีก่อนเข้านอน ระยะเวลาในการทดลอง 4 สัปดาห์ โดยมีการประเมินอาการที่พบได้บ่อยของกรดไหลย้อน เช่น แสบร้อนกลางอก ท้องอืด เรอ กลืนลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน และ รู้สึกถึงรสเปรี้ยวในปาก ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 และ สัปดาห์ที่ 4 พบว่าการรับประทานว่านหางจระเข้ในผู้ป่วยกรดไหลย้อนนั้นมีอาการที่ดีขึ้น ปลอดภัย และ สามารถทนต่ออาการข้างเคียงได้
บทความเกี่ยวกับการใช้สมุนไพร รักษาป้องกันโควิด 19 สามารถอ่านได้ที่ กระชายขาวสรรพคุณ ที่มากกว่าต้านโควิด19