เหรียญ FTX

เหรียญ FTX คือ แพลตฟอร์มสำหรับเทรด Cryptocurrency โดยเน้นไปทางด้านการเทรดอนุพันธ์ ซึ่งตัวของ FTX นั้น สร้างด้วยแนวคิดที่ว่า “แอปเทรดที่สร้างโดยผู้เทรด เพื่อผู้เทรดอย่างแท้จริง” โดย FTX มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากตั้งแต่  Industry-first derivatives (อนุพันธ์ทั่วๆไป), Options (Long/ Short option โดย Leverage ได้สูงสุดถึง 101x ), Volatility products (ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับความผันผวนของราคาสินทรัพย์) และ Leveraged tokens (โทเคนที่มี Leverage อย่างเช่น Bull/usd,3x Long BTC) อีกทั้ง FTX ยังถูกออกแบบให้มีเครื่องมีครบครั้นสำหรับนักเทรดมืออาชีพแต่ยังเฟรนลี่สำหรับนักเทรดมือใหม่ 

เหรียญ FTX คือ

FTT หรือ FTX Token คือ เหรียญมาตรฐาน ERC-20 ที่สร้างบนเครือข่าย Ethereum โดยมีผู้สร้าง คือ FTX

FTX ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดย Sam Bankman-Fried ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO และ Gary Wang ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CTO

จุดเด่นของ FTX คือ มีการสนับสนุนจาก Alameda Research บริษัทที่มีชื่อเสียงด้านการซื้อขายอนุพันธ์ และ ยังเป็นผู้มอบสภาพคล่องในการซื้อขายบน FTX รายใหญ่ที่สุดรายหนึ่ง ทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมั่นได้ว่าผลิตภันฑ์ของ FTX ได้รับการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญในวงการ

• FTX สร้างโทเคนที่ใช้งานในระบบนิเวศ FTX หรือ FTT ซึ่งเป็นโทเคนมาตรฐาน ERC-20 
• FTX มีเป้าหมายที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่เหล่านักลงทุน โดยการเพิ่มสภาพคล่อง, สร้างช่องว่างระหว่างราคาที่ต่ำที่สุด และออกแบบแพลตฟอร์มที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ
• FTX มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่เรียกว่า “Leveraged token” คือโทเคนที่มีการเปิดสถานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะอ้างอิงตามราคาตามคริปโตเคอเรนซีชนิดนั้น ทำให้นักลงทุนไม่ต้องเปิดบัญชีและวางหลักประกัน
• FTX พัฒนา Feature ใหม่ คือ Quant Zone ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างและแชร์กลยุทธ์โดยใช้ Formula template ของ FTX
• ผู้ถือครองเหรียญ FTT Token สามารถรับผลตอบแทนจาก กองทุนประกัน FTX ที่ถูกควบคุมด้วยนโยบายต่าง ๆ เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในระบบ

วัตถุประสงค์

FTT Token ได้มีการออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้เหรียญภายในระบบนิเวศ FTX เช่น การได้รับค่าธรรมเนียมคืน การได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียม การ Staking โทเคน FTT เพื่อจะได้รับโบนัส และ การโหวตในกลุ่ม Community เป็นต้น นอกจากนี้ FTT ยังถูก Burn เหรียญที่มาจากการเก็บค่าธรรมเนียมของ Exchange เพื่อที่จะลดปริมาณเหรียญเฟ้อในระบบ

เหรียญ FTX ผู้ก่อตั้ง

หนึ่งในผู้ก่อตั้ง FTX อย่าง Sam Bankman-Fried จบการศึกษาด้านฟิสิกส์จากสถาบัน MIT (Massachusetts Institute of Technology) ปัจจุบัน นอกจากจะเป็น CEO ของ FTX แล้ว เขายังเป็น CEO ของ Alameda Research อีกด้วย

สำหรับ Gary Wang ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CTO ให้ทั้ง FTX และ Alameda Research ซึ่งก่อนหน้าที่เค้าเคยร่วมงานในฐานะ Software Engineering กับ Google หลังจากเคยเป็น Intern กับ Google และ Facebook

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ FTT

เนื่องจาก FTT ถูกสร้างขึ้นโดยกระดานเทรด FTX และ มีการใช้งานหลักอยู่บนแพลตฟอร์มของ FTX ดังนั้นมูลค่าของ FTT จึงขึ้นอยู่กับความนิยมของตลาดที่มีต่อกระดานเทรด FTX เป็นหลัก นอกจากนี้ สถานการณ์ของตลาดคริปโทฯ หรือเครือข่ายหลักอย่าง Ethereum (ETH) ก็อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าเหรียญ FTT ได้เช่นกัน

ผู้สร้างเหรียญ FTX กำหนดให้มีเหรียญ FTT ได้สูงสุด 352,170,015 เหรียญ (Max supply) FTX ยังมีนโยบายเข้าซื้อเหรียญ FTT ตามผลกำไรที่ได้จากค่าธรรมเนียมส่วนหนึ่ง เพื่อนำเหรียญไปเผา (Burn) เป็นรายสัปดาห์ และ ลดจำนวนเหรียญที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดจนกว่าอุปทานจะเหลือครึ่งหนึ่งของอุปทานทั้งหมด โดยก่อนหน้านี้ FTX มีการเผาเหรียญไปแล้วมากกว่า 10 ล้านเหรียญ นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2019

เหตุผลที่ทำให้เหรียญ FTT น่าซื้อ

เหรียญ FTT ถือว่าเป็นเหรียญที่มีศักยภาพอย่างมากในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ลองมาดูเหตุผลกันว่าทำไม เหรียญ FTT ถึงคุ้มค่าที่จะลงทุน อีกทั้งควรตัดสินใจซื้อเมื่อไหร่

เหตุผลแรก และ เหตุผลหลักที่ทำให้กระดานเทรดของ FTX ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากก็ คือ FTX มีทีมงานมากความสามารถอยู่เบื้องหลัง ถือว่าเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโต และ พัฒนาโดยรวมของ FTX

Sam Bankman-Fried หนึ่งในทีมผู้ก่อตั้ง และ CEO คนปัจจุบันเป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จักในโลกคริปโตเคอร์เรนซี อีกทั้งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Alameda Research ซึ่งมีชื่อเสียงด้าน Quantitative trading 

นอกจากนี้ Sam Bankman-Fried ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือ SushiSwap ซึ่งเป็นตลาดแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลแบบไร้ศูนย์กลาง (Decentralized Exchange: DEX) ที่ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับช่วงแรกๆที่เริ่มเปิดตัว

Chef Nomi หัวหน้าทีมพัฒนา SushiSwap ขณะนั้นได้ถอนเหรียญจำนวนเทียบเท่าเงินมูลค่า 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์หลังจากเริ่มเปิดตัว ทำให้ระแวงว่าโปรเจกต์ SushiSwap จะเป็นเพียงโปรเจกต์ลวงโลก แต่หลังจากนั้น Sam Bankman-Fried ได้เข้ามาดูแลชั่วคราวก่อนตั้งทีมงานขึ้นมาดูแล SushiSwap ใหม่

ราคาเหรียญ FTT แรกเริ่มในวันที่ 1 มกราคม ปี 2021 อยู่ที่ 5.77 ดอลลาร์สหรัฐฯ และเพิ่มขึ้นเป็น 39.529 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ปี 2022 แสดงให้เห็นว่ามูลค่าเหรียญเพิ่มขึ้นกว่า 33.759 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 585.08%

หากมองภาพรวมแล้ว ราคา All-Time-High ของเหรียญอยู่ที่ 84.18 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าราคาแรกเริ่มมากถึง 78.42 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1,358.39%

จากที่กล่าวมาข้างต้น แสดงให้เห็นว่าตลอดระยะเวลาที่ FTX เข้าสู่ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน มูลค่าของ FTX ณ ช่วงเวลาหนึ่งเพิ่มมากกว่า 1,300% บ่งบอกว่ามูลค่าเหรียญอาจเพิ่มได้อีก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มว่าจะพัฒนาไปในทิศทางใดต่อไป

สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาก็คือ ราคาคริปโตเคอร์เรนซีผันผวนสูง ทำให้คาดการณ์ได้ยากว่ามูลค่าของคริปโตเคอร์เรนซีเหล่านั้นจะเพิ่มขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน แต่จากอดีตที่ผ่านมา FTT แสดงให้เห็นแล้วว่ามีผลงานโดดเด่นมาโดยตลอด

ความเสี่ยง

• ผลิตภัณฑ์ของ FTX จัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เหมาะกับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านั้นต้องใช้ Leverage ที่สูงเพื่อที่จะเพิ่มความผัวผวนของผลตอบของผู้ใช้งาน
• FTT เป็นโทเคน centralised ของ FTX ทำให้ราคาของโทเคนขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพการทำงานและการดำเนินการของศูนย์ซื้อขาย

เหรียญ FTX สรุป

สรุปแล้ว FTX ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเทรดอนุพันธ์ Cryptocurrency ที่น่าสนใจจากทั้งการที่มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย สภาพคล่องสูง spread ระหว่างราคาซื้อขายที่ต่ำ อีกทั้งผู้ก่อตั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินจาก Wall street ซึ่งในอนาคตยังมีแพลนที่จะออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆให้ผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น FTX ยังมีระบบ Ecosystem ที่แข็งแกร่ง จากการใช้ FTT token ให้สำหรับผู้ใช้งาน FTX ในการใช้ลดค่าธรรมเนียม และ รับสิทธิ์ประโยชน์ต่างๆอีกมากมายในอนาคต และ ที่สำคัญทาง Binance ได้เล็งเห็นศักยภาพของ FTX และ ได้เกิดจากลงทุนเพื่อร่วมกันพัฒนา Cryptocurrency ecosystem ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น