เหรียญ Band Protocol เป็นโปรโตคอลการส่งข้อมูลข้ามเครือข่าย Blockchain หรือ พูดง่าย ๆ ก็ คือ การส่งข้อมูลจากโลกแห่งความเป็นจริงไปยังเครือข่าย Blockchain ผ่าน Decentralized Oracle และ เชื่อมต่อข้อมูลต่าง ๆ เข้ากับสัญญา Smartcontract เพื่อทำการตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะนำข้อมูลไปใช้จริง
เหรียญ Band Protocol คืออะไร
BAND Protocol คือ ตัวกลางที่ทำหน้าที่คอยดึงข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ในโลกความเป็นจริง เข้ามาเก็บไว้อยู่ใน Blockchain Application เพื่อให้สิ่งที่เรียกว่า Smart contract ขององค์กรต่าง ๆ ให้สามารถเรียกใช้งานข้อมูลเหล่านี้ได้
หากให้อธิบายง่าย ๆ ก็ คือ Band protocol เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมที่คอยเอาข้อมูลโลกแห่งความเป็นจริงเข้าไปใส่ไว้ในโลกของบล็อกเชน เนื่องจากว่าการนำเอาข้อมูลโลกแห่งความเป็นจริงมาใส่ไว้ในบล็อกเชนจำเป็นที่จะต้องอาศัยตัวกลาง แต่ในบางครั้งตัวกลางอย่างเช่น มนุษย์ หรือ องค์กร ไม่สามารถที่จะไว้ใจได้เมื่อมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น Band Protocol จึงเข้ามาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวนี้
- Band Protocol สามารถเชื่อมต่อข้อมูลจากข้างนอกกับ Blockchain เพื่อให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงข้อมูลหลายประเภท เช่น การป้อนข้อมูลราคาเหรียญ, Wallet Metric, ข้อมูลสภาพภูมิอากาศ หรือ ข้อมูลงานอีเวนต์ต่าง ๆ
- Band Protocol เริ่มพัฒนาบนเครือข่าย Ethereum มาตรฐาน ERC-20 จากนั้นย้ายไปยังเครือข่าย Cosmos ในเดือนมิถุนายน ปี 2020
- BAND เป็นโทเค็นดั้งเดิมของ Band Protocol และ ใช้เป็นหลักประกันในการตรวจสอบ และ ถูกใช้ในการเข้าถึงข้อมูลจนถึงใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนบน BandChain เพื่อใช้ชำระเงินสำหรับชุดข้อมูลที่มีความ Private หรือ Exclusive
- Band Protocol ถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเครือข่าย Oracle อื่น พร้อมกับความเข้ากันได้ของ Blockchain อื่น และ Smart Contract ซึ่งสามารถดึงข้อมูลที่ถูกต้อง และ มีความน่าเชื่อถือผ่านการดึงข้อมูลแบบ Cross-chain
ประวัติ เหรียญ Band Protocol
ในปัจจุบันสรวิศ ศรีนวกุล ดำรงตำแหน่งเป็น CEO ของ Band Protocol เขาได้จบการศึกษาคณะ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัย Stanford และ เขาได้ทำงานด้าน Software Engineering และ Management Consulting ที่บริษัท Ericsson และ Boston Consulting Group และ เขาได้จบปริญญาโทคณะวิศวกรรม และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัย MIT และ ก่อนหน้าที่เขาจะก่อตั้ง Band Protocol เขาได้ทำงานที่บริษัท Hudson River Trading, Quora และ Dropbox ตามลำดับ และผู้ร่วมก่อตั้ง Band อีกคนหนึ่ง คือ พอล ณัฐภัสศิริ เคยเป็นอดีตนักพัฒนาบริษัท Tripadvisor และ Turfmapp และ เขาได้เปิดตัวเกมคริปโตที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 800,000 คนตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา
จุดเด่นของ Band Protocol
Band Protocol เป็น Oracle ชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นตัวกลางรวบรวมและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลจากภายนอกก่อนที่จะป้อนเข้าสู่แอปพลิเคชันบนบล็อกเชน
เดิมที การนำข้อมูลจากภายนอกไปใส่บนระบบบล็อกเชน ตั้งแต่เรื่องของสภาพอากาศ ผลการแข่งขันกีฬา ไปจนถึงมูลค่าหุ้น ถือเป็นจุดอ่อนสำคัญจุดหนึ่งของเครือข่ายบล็อกเชน เพราะหากผู้ที่นำข้อมูลเหล่านี้เข้าไปใส่ในระบบบล็อกเชนเกิดทำผิดพลาดหรือโกงขึ้นมา ข้อมูลที่อยู่ในระบบบล็อกเชนนั้นๆ ก็จะผิดทั้งหมดทันที
จุดนี้เองที่ Band Protocol เข้ามามีบทบาท โดย Band Protocol จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลจากภายนอก และป้อนข้อมูลที่ได้รับหลังการยืนยันจากผู้ตรวจสอบ (Validator) ไปให้กับแอปพลิเคชันที่อยู่บนบล็อกเชนแบบอัตโนมัติ จึงกล่าวได้ว่า Band Protocol เป็นอีกเลเยอร์หนึ่งที่จะทำให้ข้อมูลบนเครือข่ายบล็อกเชนมีความถูกต้องและน่าเชื่อถือมากขึ้นอีกระดับ
จุดเด่นที่ Band Protocol เหนือกว่าคู่แข่งประการแรกคือความเร็วในการประมวลข้อมูล เนื่องจาก Band Protocol ตั้งอยู่บนเครือข่ายบล็อกเชนของตัวเองที่เรียกว่า Bandchain ซึ่งถูกเขียนขึ้นมาโดยใช้โครงสร้างหรือ Framework ของบล็อกเชน Cosmos จึงสามารถเร่งความเร็วในการส่งข้อมูลได้ การขอข้อมูลแต่ละครั้งจะอยู่ที่ 3-6 วินาทีเท่านั้น และประการที่สองคือราคาที่ถูกกว่า เพราะไม่ได้ใช้เครือข่ายบล็อกเชนขนาดใหญ่อย่างเช่น Ethereum นั่นเอง
Insights
- Multichain: BandChain ถูกออกแบบมาให้เข้ากับแพลตฟอร์ม Smart Contract ต่าง ๆ ทำให้สามารถรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งข้อมูลภายนอก แล้วนำเสนอในรูปแบบที่ใช้งานง่าย และ มีการตรวจสอบข้าม Chain ด้วยการเข้ารหัส นอกจากนี้ BandChain แตกต่างจากแพลตฟอร์ม Oracle ที่อื่น คือ สามารถใช้งานง่ายและสามารถเข้ากับ Blockchain อื่น ๆ ได้
- BandChain อนุญาตให้นักพัฒนาสามารถใช้ WebAssembly เพื่อสร้าง Oracle ที่กำหนดเองได้ และ เชื่อม API ต่อกับ Smart Contract ภายในไม่กี่นาที
- BandChain ใช้ระบบการตรวจสอบ และ บันทึกธุรกรรมแบบ Delegated Proof-of-Stake (dPoS) เพื่อรักษาความปลอดภัยในเครือข่ายโดยใช้โทเค็น BAND และ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างบล็อคใหม่ และ ขุดเพื่อตรวจสอบธุรกรรม และ ป้องกันการโจมตีเครือข่ายด้วยการล็อคเหรียญ
- Band Protocol ระดมทุนมากกว่า 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐผ่านการ ICO 2 ครั้ง และ IEO 1 ครั้ง ICO ครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2018 ระดมทุนประมาณ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ICO ครั้งที่ 2 เดือนพฤษภาคม ปี 2019 ระดมทุนทั้งหมด 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ IEO บน Binance Launchpad ระดมทุนทั้งหมดไม่เกิน 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยรวมความเชื่อมั่นต่อตลาดของการใช้งานโทเค็น BAND เป็นไปในแง่บวก เนื่องจากผลตอบแทนเฉลี่ยของนักลงทุนใน ICO และ IEO ที่ได้รับเกือบ 20 เท่า
- Band Protocol เป็น Multiple Chain เมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่นอย่าง Chainlink ในขณะที่ LINK ดึงข้อมูลตามคำขอ (Per Request) แต่ Band Protocol จะมีข้อมูลให้ผู้ใช้งานตามที่ต้องการบน
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- Band Protocol เพิ่งเปิดตัวอัตราเงินเฟ้อประมาณ 7-20% ต่อปีเพื่อจูงใจกลุ่มผู้ถือโทเค็น BAND และ ต้องการให้มีอุปทานหมุนเวียนเหรียญ BAND อย่างน้อย 66% สำหรับการ Stake เหรียญบนเครือข่ายเป็นการทำให้มั่นใจว่า Protocol ยังคงเป็นระบบ Decentralize และ มีการรักษาระบบความปลอดภัยบนเครือข่าย
- Band Protocol ไม่มีการใช้ข้อมูล KYC เพราะว่าผู้ให้บริการข้อมูลอาจจะทำงานร่วมกับ Band Protocol แต่ด้านกฎระเบียบสำหรับคริปโตเคอร์เรนซีอาจจะต้องมีการทำ KYC และ มีกฎระเบียบมากขึ้นเพื่อเปิดเผยระดับความเสี่ยง หรือ การทำ KYC ผ่านการโหวต (Governance Vote)
- แม้ว่า BAND จะมี BandChain ที่รองรับ Multiple Blockchain แต่ในความเป็นจริง dApp ที่ได้การยอมรับส่วนมากถูกสร้างบน Ethereum Blockchain แต่อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นของกลุ่ม Smart Contract และในอนาคต BAND อาจใช้ลักษณะเฉพาะของตนเองให้ประโยชน์แก่นักพัฒนาในการใช้ Oracle และ ผู้ถือครองเหรียญที่คาดหวังให้ราคาขึ้น