เทรด forex โบรกเกอร์ไหนดี อุตสาหกรรมทางการเงินการลงทุนนั้นมีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ในตลอดหลายปีที่ผ่านมามีผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ถูกพัฒนาเป็นจำนวนมาก และ ด้วยความต้องการสร้างผลตอบแทนเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ ทำให้ทุกคนต่างมองหาแหล่งลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าของเงินที่มีอยู่ ซึ่งการลงทุนในตลาด Forex ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เพราะเข้าถึงง่าย และ มีวิธีการเทรดที่ไม่ซับซ้อน ประกอบกับผลิตภัณฑ์เทรดที่มีให้เลือกเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีมูลค่าการซื้อขายรายวันหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
เทรด forex โบรกเกอร์ไหนดี : วิธีการเลือก Broker
ในปัจจุบันมีโบรกเกอร์เทรด Forex ที่เปิดให้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก เราจึงควรศึกษาข้อมูลดูก่อนว่าในการจะเลือกโบรกเกอร์สำหรับซื้อขาย Forex นั้นมีปัจจัยอะไรบ้างที่ควรพิจารณา ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ลดโอกาสในการถูกโกง ก่อนตัดสินใจเลือกจึงควรตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ดังกล่าวมีการจดทะเบียนเพื่อขอรับใบอนุญาตแล้วหรือไม่ ใบอนุญาตที่ได้รับมาจากองค์กรที่น่าเชื่อถือหรือเปล่า และ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มในการเทรดเองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณา เพราะแพลตฟอร์มการเทรดที่มีความแม่นยำ มีความทันสมัย จะช่วยลดโอกาสเกิดความผิดพลาดหรือดีเลย์ในการส่งคำสั่ง ซึ่งความผิดพลาดหรือการดีเลย์ของระบบอาจนำมาซึ่งการได้กำไรที่ลดลง หรือ การขาดทุนที่มากกว่าที่คิดไว้ก็ได้ โบรกเกอร์ FOREX แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
- โบรกเกอร์แบบ Dealing Desk คือ โบรกเกอร์ที่เป็น Maket Maker ด้วยตนเอง คำสั่งซื้อของเทรดเดอร์รายย่อยจะไม่ถูกส่งเข้าสู่ตลาดกลาง เมื่อเทรดเดอร์รายย่อยเปิดออเดอร์แล้วโบรกเกอร์จะทำการจับคู่กับเทรดเดอร์อีกฝ่ายให้โดยอัตโนมัติ มีข้อดีเรื่องค่าบริการค่อนข้างถูก แต่โบรกเกอร์ประเภทนี้มีข้อเสียคือไม่ค่อยน่าเชื่อถือ และ มีข่าวไม่ดีเรื่องความปลอดภัยค่อนข้างมาก
- โบรกเกอร์แบบ No Dealing Desk คือ โบรกเกอร์ที่รับคำสั่งจากเทรดเดอร์รายย่อยไปยังตลาดส่วนกลาง และได้รับรายได้จากค่าคอมมิชชัน โบรกเกอร์ประเภทนี้มีความน่าเชื่อถือค่อนข้างสูงเนื่องจากโบรกเกอร์เป็นเพียงตัวกลางระหว่างเทรดเดอร์รายย่อยกับตลาดกลาง FOREX เท่านั้น แต่ก็มีค่าบริการที่ค่อนข้างสูง
คุณสมบัติของ โบรกเกอร์ Forex ที่ดี
- ความน่าเชื่อถือ ความมั่นคง ใบอนุญาตการควบคุมดูแลชัดเจน ถูกกฎหมายสากล มีความโปร่งใส
- เว็บไซต์มีภาษาไทยสมบูรณ์ การให้รายละเอียดเงื่อนไข ชัดเจน
- ช่องทางการฝากถอนเงิน ที่สะดวกและปลอดภัย ฟรีค่าธรรมเนียม
- การ Support ช่วยเหลือ รวดเร็วทันใจ มีความเอาใจใส่ แก้ปัญหาต่างๆ ไม่ทิ้งให้รอนาน
- ความเสถียรของระบบเทรด มีความเร็ว ระบบไม่ล่ม ไม่ค้าง ไม่มี Requote
- ค่าสเปรดต่ำ หรือไม่สูงจนเกินไป
- ประเภทบัญชีเทรด ,Leverage ความได้เปรียบในการเทรด
- โบนัส การจัดกิจกรรม สัมมนา แข่งขันเทรด
- บริการอื่น เช่น ฟรี VPS, EA, Copy Trade, Social Trading ,PAMM.
เทรด forex โบรกเกอร์ไหนดี
ค่า Spread: โบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุด ควรมีค่า Spread ต่ำ โดยค่า Spread เป็นเหมือนค่าธรรมเนียมที่คุณต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์ Forex ซึ่งทางโบรกเกอร์จะบวกเพิ่มไปในราคาที่คุณทำการเปิดออเดอร์นั่นเอง ดังนั้น ค่า Spread ที่ต่ำจะช่วยลดต้นทุนในการเทรด และ เพิ่มโอกาสในการทำกำไรของคุณอีกด้วย
ค่า Swap : โบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุด ควรมีค่า Swap ต่ำหรือ Free Swap โดยค่า Swap คือ ค่าธรรมเนียมที่คุณต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์ Forex เมื่อถือออเดอร์ข้ามคืน ดังนั้น หากใครเป็นสายเทรดยาว ค่า Swap สำคัญอย่างมาก
ค่า Commission : โบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุด ควรมีค่า Commission ที่ถูก โดยค่า Commission จะถูกเก็บเมื่อคุณเปิดออเดอร์ ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของทางโบรกเกอร์ ส่วนใหญ่ค่า Commission จะถูกเก็บในบัญชี Cent และ ECN
Promotion Bonus : โบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุด ควรมีโปรโมชั่นโบนัสให้กับลูกค้า เช่น ฟรีโบนัสแรกเข้า หรือ ฟรีโบนัสในการฝากครั้งต่อ ซึ่งโบนัสฟรีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มต้นทุนในการเทรดของคุณ (กำไรที่ได้จากการเทรดโดยโบนัสฟรีสามารถถอนได้ แต่โบนัสฟรีไม่สามารถถอนได้)
Live Chat : โบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุด ถ้าโบรกไหนมีบริการทุกวัน 24 ชม. ถือว่าดีเลย เพราะถ้าหากคุณมีปัญหาขึ้นมา คุณก็ย่อมอยากให้ทางโบรกเกอร์ช่วยแก้ปัญหาให้ทันที และ การที่ตอบแชทไวนั้นจะยิ่งทำให้คุณอุ่นใจมากขึ้นว่า เงินของคุณจะไม่หายไปไหนในกรณีที่เกิดปัญหาในการเทรด
ความเร็วในการฝากและถอน : โบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุด ควรมีความเร็วในการฝาก และ ถอน บางทีการรอเงินเป็นวันคงไม่ใช่ผลดีสักเท่าไร เนื่องจากเมื่อคุณเทรดได้กำไรแล้วก็อยากจะได้เงินไว ๆ ถูกต้องไหม?
ความน่าเชื่อถือ : โบรกเกอร์ที่ดีจะต้องเป็น โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ ซึ่งความน่าเชื่อถือนี้ในวงการ Forex คือ ใบอนุญาต (License) ที่ทางโบรกเกอร์จะได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใบอนุญาตเหล่านี้จะเป็นการรับประกันว่า หากทางโบรกเกอร์ Forex เกิดปัญหาใดขึ้นมา คุณจะได้รับเงินทุนคืน
วิธีตรวจสอบใบอนุญาต (License)
การที่เราจะตรวจสอบว่า โบรกเกอร์ในการงลงทุน CFD และ Forex เจ้าไหน คือ ตัวจริงเสียงจริง มีใบอนุญาตจริง เราสามารถตรวจสอบได้จากการลงทะเบียนเพื่อของเป็นผู้ประสานงานด้านการลงทุน ซึ่งในปัจจุบันการจะได้รับเอกสารนี้ไม่ง่ายเลย การที่จะได้มานั้นโบรกเกอร์ต้องมีความน่าเชื่อถืออย่างมาก และ ต้องมีทุนเพียงพอที่จะให้หน่วยงานเหล่านั้นออกใบอนุญาตเพื่อการเป็นตัวกลางในการเทรด CFD และ Forex โดยในปัจจุบันคุณสามารถตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงาน เช่น ASIC หรือ CYSEC แต่แนะนำว่าสามารถตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ WikiFX จะง่ายกว่ามาก
นั่นเป็นเหตุผลที่เราต้องเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่มีใบอนุญาต หรือ “Licensed Broker” เท่านั้น โดยปัจจุบัน License ที่ได้รับการยอมรับว่ามีการกำกับดูแลที่เข้มงวดมากที่สุด ซึ่งหมายถึงนักลงทุนจะมีความปลอดสูง ได้แก่:
- ญี่ปุ่น – มีใบอนุญาตที่เรียกว่า “FSA” (Financial Services Agency)
- สหราชอาณาจักร – “FCA” (Financial Conduct Authority)
- สหรัฐอเมริกา – “CFTC” และ “NFA” (Commodity Futures Trading Commission และ National Futures Association)
สรุป
ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีโบรกเกอร์ FOREX ให้เลือกเป็นจำนวนมาก แต่แต่ละโบรกเกอร์ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมจึงต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยทั้งความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย ค่า Spread ที่ไม่สูงไม่ต่ำจนเกินไป ระบบที่เสถียร รวมไปถึงทีมงานที่คอยให้การบริการ จึงควรเป็นสิ่งที่ต้องศึกษาให้ละเอียดมากที่สุด
ในส่วนของ License เราต้องเปิดเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ Forex นั้น ๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับ “About Us” หรือข้อมูลใบอนุญาต ซึ่งหากคุณไม่สามารถค้นพบข้อมูลใบอนุญาตบนหน้าเว็บไซต์ได้ ให้ระวังไว้ก่อนว่าอาจเป็นโบรกเกอร์หลอกลวง ทั้งนี้ โบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาต FSA, FCA และ ของสหรัฐฯ ถือเป็นโบรกเกอร์ระดับเคร่งครัด ในขณะที่ CySEC, JSC และ Seychelles ถือเป็นหน่วยงานกำกับดูแลรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ