สกุลเงิน Litecoin คืออะไร Litecoin คือ เหรียญสกุลเงินดิจิทัลกลุ่มแรก ๆ เลยที่ถือกำเนิดขึ้น จะเรียกว่าเป็นรุ่นบุกเบิกเลยก็ไม่ผิด โดยถูกสร้างขึ้นในปี 2011 Litecoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่คล้ายคลึงกับ Bitcoin และ ที่สำคัญ คือ Litecoin นั้นพัฒนามาจาก Blockchain ของ Bitcoin ด้วยซ้ำ ในช่วงเริ่มต้นนักพัฒนายังไม่ค่อยสนใจ Litecoin มากนักจนมาถึงปี 2016 ถึงได้รับการยอมรับจากนักลงทุนรวมถึงนักพัฒนาเหรียญเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้ความรวดเร็วในการทำธุรกรรมบน Litecoin Blockchain นั้นมีความรวดเร็วพอสมควร ในบทความนี้เราจะอธิบายวิธีการทำงานมัน และ ข้อแตกต่างระหว่าง Litecoin กับ Bitcoin
สกุลเงิน Litecoin คืออะไร
การขุด Litecoin (LTC) หรือ Litecoin mining คือ กระบวนการในการส่งธุรกรรมเข้าสู่ Litecoin blockchain โดยใช้คอมพิวเตอร์ และ ฮาร์ดแวร์เฉพาะที่รองรับ Proof-of-work consensus mechanism โดยนักขุดจะใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์นี้ในการไขรหัสคริปโตที่มีความซับซ้อนเพื่อเพิ่มบล็อคเข้าสู่บล็อกเชน ซึ่งมีวัตถุประสงค์ 2 ประการได้แก่
- เพื่อรักษาความปลอดภัยของ network
- เพื่อตรวจสอบธุรกรรม โดยนักขุดจะได้บล็อกเป็นของตอบแทนสำหรับการทำงานดังกล่าว
Litecoin หรือ เรียกสั้นๆ ว่า LTC เป็นเหรียญดิจิทัลอีกหนึ่งสกุลที่น่าจับตามองไม่แพ้สกุลอื่นๆ ถูกเปิดตัวขึ้นโดย “Charlie Lee” เมื่อปี 2011 เป็นเหรียญที่ถูกสร้างขึ้นมาคล้ายคลึงกับ Bitcion โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างระบบที่ดีกว่า Bitcoin ใน 3 ด้านด้วยกัน คือ
- ค่าธรรมเนียมที่ถูกลง
- ความรวดเร็วในการประมวลผลธุรกรรม
- การกระจายอำนาจที่มากยิ่งขึ้น (Decentralized)
โดย Litecoin นั้นใช้เครือข่ายการชำระเงินระดับโลกแบบ Open Source ซึ่งไม่ได้ควบคุมโดยผู้มีอำนาจส่วนกลาง ทำให้เกิดคำพูดเปรียบเปรยที่ว่า “หาก Bitcoin เปรียบเหมือนทองคำ Litecoin ก็เปรียบเสมือนแร่เงินในโลกดิจิทัลเช่นกัน”
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Litecoin
Litecoin เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความใกล้เคียงกับ Bitcoin ในหลายประการ สินทรัพย์ดิจิทัลแรกเริ่มเดิมทีสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาระบบการเงินในปัจจุบัน แต่พอเวลาผ่านไป เมื่อคนยอมรับ และ หันมาใช้ Bitcoin กันมากขึ้น แน่นอนเลยว่าธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก็ย่อมมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัวส่งผลให้ความรวดเร็วในบางช่วงอาจจะลดลง
เวลาโดยเฉลี่ยต่อการสร้าง Block ของ Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 10 นาที จนนักพัฒนาได้สร้าง Litecoin ขึ้นมาซึ่งใช้ระบบ Proof-of-Work เป็น Consensus Mechanism เหมือน Bitcoin แต่ใช้ความเร็วในการสร้าง Block โดยเฉลี่ย 2.5 นาที แปลว่ารวดเร็วกว่า Bitcoin ถึง 4 เท่า ด้วยความที่ Bitcoin และ Litecoin มีความคล้ายคลึงกันแบบนี้เลยมีผู้เชี่ยวชาญบางท่านกล่าวเอาไว้ว่า Bitcoin นั้นเปรียบเหมือนกันทองคำ ส่วน Litecoin เหมือนกับเงิน
หากถามไปถึงสาเหตุของการสร้าง Litecoin นั้น ส่วนหนึ่งก็ คือ นักพัฒนาเล็งเห็นปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยระบบ Proof-of-Work หรือ การทำงานตามฉันทามติ นั่นทำให้ต้องใช้กำลังในการประมวลผลจำนวนมาก และ ใช้เวลาในการตรวจสอบการทำธุรกรรมมากขึ้นไปอีกหากมีผู้คนหันมาสนใจ Bitcoin กันมากขึ้นในอนาคต Litecoin จึงถูกออกแบบมาให้สามารถรองรับขนาดของธุรกรรมจำนวนมากได้ นอกจากนี้ด้วยเวลาในการสร้าง Block ที่สั้นกว่ายังทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาการ Double Spending น้อยลงอีกด้วย (หากสมมติว่าทั้งสองเครือข่ายมีกำลังขุดเท่ากัน) และ ที่สำคัญที่สุด คือ ค่าธรรมเนียมก็จะลดลงด้วย
ไลท์คอยน์ (Litecoin) คืออะไร?
ไลท์คอยน์ (Litecoin หรือ LTC) เป็นเหรียญทางเลือก (Altcoin) เหรียญแรกๆ ที่แตกออกมาจาก Bitcoin ในปี 2011 ไลท์คอยน์เป็นเงินดิจิทัลแบบ Peer to Peer ที่ใช้เล่มบัญชีสาธารณะ (Public Ledger) บนบล็อกเชนแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Blockchain) ซึ่งสามารถใช้ทำธุรกรรมได้โดยไม่ต้องอาศัยตัวกลางทางการเงิน ทำให้ค่าธุรกรรมต่ำมากจนแทบจะเป็นศูนย์ และ ทำให้มีความปลอดภัย และ ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานที่สูงเช่นเดียวกับ Bitcoin แต่มีความแตกต่างทางเทคนิคเล็กน้อยตรงที่มีการปรับเปลี่ยนอัลกอริธึมการทำงานให้รวดเร็วขึ้น ไลท์คอยน์สามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ มือถือ และ Wirex VISA Card โดยมีกระเป๋าเงิน (Wallet) ทั้งแบบ Hardware, Desktop, Web Wallet และ Mobile App
ไลท์คอยน์ (Litecoin) มาจากไหน?
ไลท์คอยน์ (Litecoin) ถูกพัฒนาขึ้นโดย Charlie Lee อดีตพนักงานบริษัท Google โดยมีวิสัยทัศน์ให้ไลท์คอยน์เป็นเงินดิจิทัล และ เหรียญทางเลือก (Altcoin) ที่มีค่าธุรกรรมต่ำกว่าเงินที่เราใช้กันในปัจจุบัน ไลท์คอยน์เปิดตัว Open Source Client ให้นักพัฒนา และ ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้บน GitHub เมื่อวันที่ 7 และ เครือข่ายเริ่มใช้งานได้ในวันที่ 13 ตุลาคม 2011 หลังจากนั้นไลท์คอยน์ก็มีมูลค่าในตลาดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนติด Top 5 และ Top 10 ของเหรียญที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด จนกลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือกในการลงทุนแทน Bitcoin และ ด้วยความคล้ายคลึงกันมากนี้ ทำให้มีการเปรียบเปรยอยู่บ่อยครั้งว่า หากบิทคอยน์เป็นทองคำดิจิทัลแล้ว ไลท์คอยน์ก็คงจะเป็น(โลหะ)เงินดิจิทัล
ไลท์คอยน์ (Litecoin) ต่างกับบิทคอยน์ (Bitcoin) อย่างไร ?
- ปริมาณเหรียญ ไลท์คอยน์ (Litecoin) กำหนดจำนวนเหรียญสูงสุดไว้ที่ 75 ล้านเหรียญ ในขณะที่บิทคอยน์มีลิมิตที่ 21 ล้านเหรียญ โดยสามารถแบ่งย่อยได้เล็กที่สุดที่ทศนิยม 8 ตำแหน่งเหมือนกัน
- ระยะเวลาการทำงาน ไลท์คอยน์สามารถประมวลผล 1 บล็อกได้ทุกๆ 2.5 นาที ซึ่งเร็วกว่าบิทคอยน์ที่ประมวลผลด้วยความเร็ว 10 นาทีต่อบล็อก
- ปริมาณผู้ใช้ ความเร็วที่ต่างกันนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากขนาดเครือข่ายของไลท์คอยน์ที่เล็กกว่า และ ปริมาณการซื้อขายที่น้อยกว่า
- ฟังก์ชันการทำงาน แม้จะใช้อัลกอริทึมการคอนเฟิร์มธุรกรรม และ ขุดเหรียญ (Proof of Work) เหมือนกัน แต่ไลท์คอยน์มีการใช้ฟังก์ชันแฮช (Hash Function) ที่ซับซ้อนกว่าคือใช้ Scrypt แทน SHA-256 ของบิทคอยน์ เพื่อเป็นการป้องกันการโจมตีเครือข่ายของตน โดยจะเพิ่มภาระให้แก่หน่วยความจำซึ่งเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายทาง Hardware ให้แก่ผู้โจมตีเครือข่ายที่ต้องใช้ Hardware ขนาดใหญ่
- ระบบฮาร์ดแวร์ ในทางกลับกันก็เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายให้แก่นักขุดเหรียญไลท์คอยน์ด้วย โดยเฉพาะ FPGA และ ASIC หรือ วงจรรวมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะที่จะต้องมีความซับซ้อนมากขึ้น
ข้อเสียของสกุลเงิน litecoin
เวลาพูดถึง LTC มักจะมีแต่การนำเสนอด้านดีที่เหนือกว่าบิตคอยน์ ซึ่งก็ได้อธิบายไปแล้วข้างต้น จึงได้ยกข้อเสียของ Litecoin มาอธิบายเพิ่มเติม โดยหลัก ๆ จะเป็นเรื่อง “ความนิยม” ซึ่งเราต้องเข้าใจว่า การที่เครือข่ายจะมีพลังได้ มันต้องการการมีส่วนร่วมจากคนหมู่มาก
แต่ปัญหาของ Litecoin ส่วนหนึ่งหลายคนประเมินว่า การลงทุนขุด LTC ซึ่งมีความไม่คุ้มค่าจาก Scrypt Algorithm ซึ่งก็อาจทำให้ความนิยมต่ำลงในระยะยาว อย่างไรก็ตาม นี้เป็นสิ่งที่ผู้พัฒนามองว่าเป็นข้อดี นอกจากนักวิเคราะห์มองข้อเสียของสกุลเงิน litecoin ไว้หลากหลายมุม เช่น
- เครดิตของผู้ก่อตั้งที่พังทลายเนื่องจาก คนมองว่าเขาอาจมี “ผลประโยชน์ทับซ้อน” แรงกดดันมากเสียจนปลายปี 2017 เขาต้องตัดสินใจขาย LTC ทั้งหมดที่เขาครอบครองอยู่
- Litecoin มีแนวโน้มจะไม่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนรายใหม่ที่สนใจ BTC เนื่องจาก ถูกมองว่าเป็นเพียงเวอร์ชันคัดลอกของ BTC เท่านั้น
- หาก Miner ของ Litecoin มีแนวโน้มเป็นบุคคลธรรมดาจริง ๆ นั้นอาจหมายถึงโอกาสในการทำลาย Node หรือ ผู้เข้ามามีส่วนร่วม ในกรณีที่บางประเทศอาจแบนประชาชนไม่ให้ขุด Cryptocurrency ซึ่งนั้นอาจหมายถึง สกุลเงินดิจิทัลที่ไม่ได้ Decentralized อย่างแท้จริง
เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ก็ยังพรั่งพร้อมความสามารถในการจัดการข้อเสนอหรือการทำธุรกรรมของปริมาณที่สูงขึ้นในครั้งเดียว ไม่ต้องกังวลว่าจะมีการปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์ในอนาคต หรือ ไม่เนื่องจาก Blockchain ที่สนับสนุน Litecoin สนับสนุนการทำธุรกรรมมากขึ้นในเวลาเดียวกัน
เหรียญ XRP คืออะไร XRP เป็นสกุลเงินดิจิทัลยอดฮิตสกุลหนึ่งในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Ripple Labs, Inc. หรือ ที่เรียกกันว่า “Ripple” (แต่เดิมชื่อบริษัท Opencoin) ที่มี Jed McCaleb, Ryan Fugger และ Chris Larsen เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง “จุดประสงค์ของการสร้างเหรียญ XRP ขึ้นมาคือเพื่อใช้ลดปัญหาตัวกลางในการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ เพิ่มความรวดเร็วในการทำธุรกรรม และ ลดปัญหาค่าธรรมเนียมที่สูง”
ในการแลกเปลี่ยนเงินระหว่างประเทศนั้นจะใช้ XRP เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน จากเดิมที่เคยใช้เวลานานเป็นวัน แต่ XRP ใช้เวลาในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น และ สามารถรองรับการประมวลผลธุรกรรมได้มากถึง 1,500 ธุรกรรมพร้อม ๆ กันได้ และ มีค่าธรรมเนียมที่ถูกมากอีกด้วย อ่านต่อคลิก เหรียญ XRP คืออะไร
แหล่งอ้างอิงข้อมูล บิตคับ