Wednesday, 4 December 2024

สกุลเงิน Ethereum คือ

Ethereum

สกุลเงิน Ethereum คือ เครือข่าย Blockchain ที่เป็นแพลตฟอร์มให้เหล่านักพัฒนาสามารถสร้างแอพพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ หรือ Dapps (Decentralized Application) จริง ๆ แล้ว Ethereum ไม่ใช่สกุลเงินอย่างที่ทุกคนเข้าใจ แต่เป็นเครือข่ายระบบปฏิบัติการหนึ่งที่ทำงานอยู่บนบล็อกเชน (Blockchain) และ ใช้สกุลเงินดิจิทัลที่เรียกว่า Ether (ETH) เป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum และ เนื่องจากสกุลเงิน ETH เกิดขึ้นมาพร้อมกับเครือข่าย Ethereum นั่นเอง คนจึงเรียก Ethereum ว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัลไปด้วย

ทั้งนี้ Ethereum ถูกพัฒนาขึ้นโดย วีตาลิค บูเจริน (Vitalik Buterin) เด็กหนุ่มอัจฉริยะชาวรัสเซีย ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยอยู่ในทีมพัฒนาของ Bitcoin ก่อนจะแยกตัวออกมาสร้าง Ethereum ในปี 2556 โดยทีมพัฒนาต้องการให้ Ethereum สามารถใช้งานได้ไม่ต่างกับ Bitcoin แต่ปรับปรุงข้อบกพร่องต่าง ๆ และ เพิ่มความสามารถของเหรียญให้หลากหลายขึ้น ทำอะไรได้มากกว่า Bitcoin ซึ่งก็ทำได้จริง ๆ เพราะปัจจุบัน Ethereum สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับธุรกิจประเภทต่าง ๆ ไม่จำกัดแค่การใช้ในธุรกรรมทางการเงินเท่านั้น

สกุลเงิน Ethereum คือ อะไร

เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย ท่านอาจคิดว่า อีเธอเรียม (Ethereum) เป็นบล็อกเชนที่เราสามารถเขียนโปรแกรมได้ ไม่เหมือนกับบิทคอยน์บล็อกเชนที่ใช้ได้เพียงสำหรับการรับ-ส่งบิทคอยน์เท่านั้น อีเธอเรียมทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างระบบของตัวเองได้ พูดง่ายๆ ก็คือ อีเธอเรียมเปรียบเสมือนซอฟต์แวร์ที่เปิดรับให้คนมาใช้ได้ โดยทำงานผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ทำให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถสร้าง และ ส่งแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ขึ้นบนบล็อกเชนได้ ระบบที่ผู้ใช้งานสร้างขึ้นนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “Smart contracts” ซึ่งจะถูกคัดลอก (copy) และ ประมวลผลในคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องที่อยู่ในเครือข่าย

สกุลเงิน Ethereum คือ มีราคาเท่าไรแล้วอะไรเป็นปัจจัย

คล้ายๆ บิทคอยน์ อีเธอเรียมก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้มาจากธนาคาร หรือ สนับสนุนโดยรัฐบาล ดังนั้น อัตราเงินเฟ้อ และ นโยบายการเงินจะไม่มีผลกระทบต่อราคาของอีเธอเรียม นักเทรดและนักลงทุนต้องใช้การวิเคราะห์พื้นฐานเข้ามาช่วยเพื่อที่จะวิเคราะห์ราคาในอนาคต ทั้งนี้ มีหลายปัจจัยที่มีผลต่อราคาของอีเธอเรียม โดยปัจจัยหลักๆ มีดังนี้

  • อุปสงค์ และ อุปทาน ราคาอีเธอเรียมนั้นขึ้นอยู่กับมูลค่าที่ตลาดให้ ถ้ามีคนต้องการซื้ออีเธอเรียมมากขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้น ถ้ามีคนต้องการจะขายมากขึ้น ราคาก็จะลดลง
  • การแข่งขัน ในขณะที่บิทคอยน์ได้รับความนิยมอย่างมาก นักเทรดก็ยังสามารถเลือกลงทุนได้ในเหรียญอื่นๆ อีกหลายร้อยสกุล ทำให้มีการแข่นขันที่เข้มข้นมากขึ้น

สกุลเงิน Ethereum คือ มีจำนวนเท่าไร

ไม่เหมือนบิทคอยน์ที่มีจำนวนจำกัด (21 ล้านเหรียญ) อีเธอเรียมจะมีการออกเหรียญเพิ่มปีละ 18 ล้านเหรียญ! โดยทางทฤษฎีแล้ว จำนวนโทเค็นที่ปล่อยออกมาทุกปีจะเท่ากับจำนวนเหรียญที่หายไปหรือไม่ได้ใช้งาน ดังนั้น จำนวนเหรียญจะมีความสมดุล อย่างไรก็ตาม ในปี 2018-2019 อีเธอเรียมมีเปลี่ยนอัลกอริทึมจาก Proof of Work เป็น Proof of Stake ที่มีชื่อว่า Casper  ซึ่งอัลกอริทึมนี้จะส่งผลต่ออัตราการออกเหรียญ วิธีการออกเหรียญใหม่ ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผลอัตราที่ว่านี้ อย่างไรก็ตามอีเธอเรียมได้สัญญาไว้ดังนี้

  • จำนวนเหรียญที่มากที่สุด ซึ่งในปัจจุบันถือว่าเป็นเพดานของจำนวนเหรียญแล้ว และ การออกเหรียญแบบใหม่ตาม Casper จะไม่ออกเหรียญเกินกว่าจำนวนนี้ (มีการคาดหวังว่าจะมีจำนวนเหรียญน้อยกว่านี้มาก)
  • ไม่ว่าจะมีวิธีการเพิ่มเหรียญอย่างไร มันจะเป็นรูปแบบ Smart contracts กระจายศูนย์ ที่ไม่มีการเอื้อผลประโยชน์ให้กลุ่มใดเป็นพิเศษ เพื่อที่จะทำให้เครือข่ายมีความปลอดภัย และ ความมั่งคง

Smart Contract คืออะไร

Smart Contract (สมาร์ทคอนแทรค) คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กซึ่งถูกเก็บไว้ในรูปของบล็อกเชนอีเธอเรียม ตัวสมาร์ทคอนแทรคสามารถใช้งานได้โดยใส่เหรียญอีเธอเรียมเข้าไปในตัวสัญญานั้นๆ นอกเหนือจากนั้นแล้ว สมาร์ทคอนแทรคจะมีการระบุกฎระเบียบระหว่างผู้ซื้อ และ ผู้ขายไว้ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการแลกเปลี่ยนเอกสาร หุ้นในบริษัท เงิน สินทรัพย์ และอื่นๆ อีกมากมายที่มีมูลค่าในตัวมันเอง สมาร์ทคอนแทรคมีจุดประสงค์หลัก คือ ตรวจสอบ ยืนยัน บังคับใช้ หรือ เซ็นสัญญา และ ข้อตกลงต่างๆ ผ่านระบบดิจิทัล

สมาร์ทคอนแทรค แตกต่างจากสัญญาทั่วๆ ไปตรงที่มันสามารถดำเนินการ หรือ ยืนยันข้อตกลงต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง อาทิเช่น ธนาคาร รัฐบาล โบรกเกอร์ ตัวแทนหรือทนาย

ซึ่งตามจริงแล้ว ตัวบล็อกเชนของบิทคอยน์น์ก็สามารถสร้างสมาร์ทคอนแทรคในนั้นได้ แต่ข้อเสียหลักๆ ของมันก็ คือ โครงสร้างภาษาของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีความซับซ้อนเกินกว่าที่จะนำไปพัฒนาระบบต่างๆ ได้ ซึ่งจะแตกต่างจากบล็อกเชนของอีเธอเรียมที่เป็นมิตรกับนักเขียนโปรแกรมมากกว่า เนื่องด้วยโครงสร้างของระบบที่สามารถทำงานได้โดยไม่ติดขัดเรื่องภาษาโปรแกรม

Smart Contract ทำงานยังไง

การสร้างข้อตกลง ข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อ และ ผู้ขายจะถูกแปลงเป็นรหัสคอมพิวเตอร์ จากนั้นการทำธุรกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะถูกบันทึกโดยอัตโนมัติในบล็อกเชนของอีเธอเรียม สมาร์ทคอนแทรคแต่ละอันจะมีหมายเลขที่อยู่เป็นของตัวเอง และ เมื่อใดก็ตามที่สมาร์ทคอนแทรคถูกบันทึกในบล็อกเชนของอีเธอเรียม ใครก็ตามที่มีที่อยู่ของตัวสมาร์ทคอนแทรคนั้นๆ จะสามารถเข้าถึงสมาร์ทคอนแทรคได้

Triggering Events สมาร์ทคอนแทรคจำเป็นที่จะระบุถึงเหตุการณ์/จุดประสงค์ พร้อมด้วยวันหมดอายุของสัญญาเพื่อให้ตัวสมาร์ทคอนแทรคทำงานได้ด้วยตัวมันเองโดยพิจารณาจากข้อตกลงที่ถูกแปลงเป็นรหัส ซึ่งรหัสเหล่านี้จะระบุขั้นตอนต่างๆ โดยอาศัยหลักเหตุ และ ผล เราสามารถอธิบายหลักเหตุ และ ผลได้ว่า ถ้าคำสั่งชุดหนึ่งถูกส่งออกมาก็จะให้ผลในรูปแบบๆ หนึ่ง โดยสมาร์ทคอนแทรคก็จะทำงานไปเรื่อยๆ จนกว่าทั้งผู้ซื้อ และ ผู้ขายจะยุติสัญญา

การยุติข้อตกลง เมื่อสมาร์ทคอนแทรคถูกสร้างมาแล้ว ผู้ซื้อ และ ผู้ขายจำเป็นที่จะต้องบรรลุจุดประสงค์ หรือ เหตุการณ์ต่างๆ ตามที่ได้ตกลงกันไว้ในตอนแรก แต่ถ้าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ทำตามที่ระบุไว้ในสัญญาภายในระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ บล็อกเชนก็จะคืนเงินไปให้อีกฝ่ายหนึ่ง

Ethereum Virtual Machine

Ethereum Virtual Machine (EVM) คือ รหัสของสมาร์ทคอนแทรคที่ดำเนินการบนคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายของผู้ใช้งานทุกคน ยิ่งไปกว่านั้น EVM ยังถูกจำแนกเป็น “Turing complete” ซึ่งมีความสามารถที่จะดำเนินการได้ทุกโปรแกรมโดยไม่ต้องกังวลถึงภาษาโปรแกรมที่ใช้ กล่าวได้ว่า นักเขียนโปรแกรมสามารถสร้างแอปพลิเคชันโดยใช้ภาษาโปรแกรมที่ง่ายต่อการเขียน อย่างเช่น Python และ JavaScript 

คุณลักษณะที่สำคัญของ EVM อีกข้อหนึ่งก็ คือ มันให้ความปลอดภัยที่มากขึ้นสำหรับโปรแกรมเมอร์ที่ใช้ภาษาโปรแกรมที่ไม่คุ้นเคย ในขณะที่ช่วยยืนยันได้ว่าโปรแกรมเหล่านั้นสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ ยิ่งไปกว่านั้น EVM ไม่ได้จัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายอีเธอเรียม ซึ่งทำให้ EVM นั้นปลอดภัยอย่างมากสำหรับการทดสอบ และ พัฒนาสมาร์ทคอนแทรค

อะไรคือ ICO ?

ICO คือ การระดมทุนผ่านเหรียญดิจิทัล เป็นทางเลือกเสริมสำหรับการระดมทุนจากทุกๆ สถานที่ในโลกนี้ ผ่านทางโทเค็น หรือ สกุลเงินดิจิทัล เพื่อให้ ICO นั้นได้ผล โครงการสร้างโทเค็นดิจิทัล และ ขายให้กับสาธารณชน โดยส่วนใหญ่จะแลกกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เช่น Bitcoin หรือ Ether โดยส่วนมากการทำ ICO ในทุกวันนี้ถูกสร้างด้วย Ethereum ถึงแม้ว่าจะมีโทเค็นจาก QTUM, NEM หรือ สกุลอื่นๆ ที่มีความสามารถเหมือนกับ Etheruem ก็ตาม

ICO ทำงานอย่างไร?

Whitepaper

เพื่อสร้างโปรเจคจากการระดมทุนผ่านเหรียญดิจิทัล ผู้ที่ทำ ICO หรือ Startup จำเป็นที่จะต้องสร้างแผนงานบน “Whitepaper” โดยใส่รายละเอียดและข้อมูลต่างๆ ของโปรเจคเพื่อให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่ง Whitepaper ควรมีการระบุข้อมูลดังต่อไปนี้

  • อะไรคือสิ่งที่โปรเจคนี้ต้องการจะบรรลุ และเป้าหมายสุดท้ายคืออะไร
  • ผู้ก่อตั้งจะเก็บเหรียญไว้กับตัวเองเท่าไหร่
  • ต้องใช้เงินทั้งหมดเท่าไหร่สำหรับโปรเจคนั้นๆ
  • รับการชำระเงินรูปแบบใดบ้าง
  • การระดมทุนผ่านเหรียญดิจิทัล มีระยะเวลาเท่าใด

 ICO แคมเปญ

การระดมทุนผ่านเหรียญดิจิทัลนั้น จะสร้าง “เหรียญของตัวเองขึ้นมา” และผู้สนับสนุนสามารถซื้อเหรียญนั้นโดยใช้เหรียญดิจิทัลที่มีอยู่แล้ว เหรียญเหล่านี้จะเปรียบเสมือนหุ้นของบริษัทที่ขายให้กับนักลงทุนในการ IPO (Initial Public Offering)

ข้อสรุป

ถ้าหากเงินที่ถูกระดมมาไม่ถึงจำนวนขั้นต่ำที่ถูกกำหนดไว้ เงินเหล่านั้นจะถูกคืนกลับไปยังผู้สนับสนุน หรือผู้ให้ทุนโดยอัตโนมัติ หรือถ้าการระดมทุนไม่สำเร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ เงินเหล่านั้นจะถูกนำไปเริ่มต้นโครงการใหม่ หรือทำให้โครงการนั้นเสร็จสมบูรณ์

อะไรคือ ERC20 และโทเค็น ERC20

โทเค็น ERC20 มีอยู่ในเครือข่าย Ethereum ซึ่งประกอบไปด้วย Blockchain ที่มีความสามารถในการเก็บธุรกรรม และ Virtual machine ที่สามารถทำ Smart contract ได้ เหรียญ Ethereum อยู่ใน Ethereum blockchain สกุลเงินดั้งเดิมของ Ethereum ถูกเรียกว่า “Ether” แต่นอกเหนือจากนั้นแล้วมันยังสามารถรองรับ “เหรียญ” อื่นๆ ซึ่งอาจเป็นสกุลเงิน หุ้น หรือมูลค่าต่างๆ ได้อีกด้วย

ต้นกำเนิดของโทเค็น

โทเค็นกำเนิดมาจาก Smart contract ซึ่งตัว Smart contract นี้ นอกเหนือจากการสร้างโทเค็นแล้ว มันยังสามารถจัดการการทำธุรกรรมได้อีกด้วย ในการสร้างโทเค็น โทเค็นนั้นๆ จะต้องแตกต่างจากโทเค็นอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้นักพัฒนาจึงต้องคิดค้นโค้ดขึ้นมาใหม่สำหรับการทำธุรกรรม หรือการโฮสต์กระเป๋าเงินสำหรับโทเค็นใหม่ การโฮสต์โทเค็นนั้น ต้องคำนึงถึงความสามารถของโทเค็นในการแลกเปลี่ยนทั้งการซื้อ ขาย และโอนถ่ายฟังก์ชั่น การเพิ่มขึ้นของชนิดโทเค็นอาจทำให้เกิดปัญหาได้ เพราะการโฮสต์ หรือสร้างโค้ดขึ้นมาใหม่นั้นมีความซับซ้อนและกินเวลาพอสมควร นอกเหนือจากนั้นแล้ว ถ้า Smart contract ถูกสร้างขึ้นมาโดยที่นักพัฒนาได้ทำข้อผิดพลาดบางอย่าง การแก้ข้อผิดพลาดนั้นๆ รวมถึงการอัปเดต Smart contract ขึ้นมาใหม่จะกินเวลานานมากเกินไป

ERC20 ถูกสร้างขึ้นมาเพราะอะไร? 

โปรโตคอล ERC20 ได้สร้างมาตรฐานที่จำเป็นสำหรับการสร้างโทเค็น Ethereum โดย “ERC” ย่อมาจาก “Ethereum Request for Comments” และเลข ”20” แสดงถึงรหัสข้อเสนอพิเศษ ERC20 บอกข้อแนะนำในการสร้างโทเค็น และบอก 6 ฟังก์ชั่นที่จำเป็นต่อการสร้าง Smart contract และตัวเสริมอีก 3 อัน ซึ่งก็หมายความว่า แทนที่นักพัฒนาจะต้องคิดค้นและเขียนโค้ดขึ้นมาใหม่ทั้งหมด แต่ด้วย ERC20 นักพัฒนาแค่ต้องทำตาม 6 ฟังก์ชั่นที่จำเป็นเท่านั้น

อะไรคือ GAS Ethereum และราคา GAS

GAS คือ “ค่าธรรมเนียม” สำหรับทุก Smart contract ที่ผู้ใช้งานต้องการจะใช้บน Ethereum ในการเปิดใช้งาน Smart contract ผู้ใช้งานต้องให้นักขุด Ethereum ในเครือข่ายทั้งหมดทำการคำนวน Smart contract เป็นรายบุคคล และ GAS คือสิ่งที่ผู้ใช้งานจ่ายเพื่อตอบแทนนักขุดเหล่านั้น

ราคา GAS ไม่ถูกนับเป็นโทเค็นที่ผู้ใช้งานสามารถถือครองได้ ถึงแม้ว่ามันจะสามารถถูกวัดได้ GAS มีอยู่แค่บน Ethereum Virtual Machine เท่านั้น โดยถ้า Smart contract ของผู้ใช้งานมีความซับซ้อน และจำเป็นต้องใช้หลายขั้นตอน หลายหน่วยความจำ และข้อกำหนดอื่นๆ อีกมากมาย จำนวน GAS ที่จะต้องถูกจ่ายก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย และในการจ่าย GAS จะต้องจ่ายด้วย Ether เท่านั้น

เพราะอะไรถึงใช้ GAS แทนที่จะใช้ Ether โดยตรง เหมือนกับบิทคอยน์ Ether มีตลาดที่ผันผวนด้านราคาเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้การแยก GAS ออกจาก Ether จะทำให้นักขุด Ether ได้รับค่าตอบแทนที่แน่นอน ถึงแม้ตลาดจะผันผวนมากก็ตาม

สกุลเงิน Ethereum คือ “บัญชี” ต่างๆ ใน Ethereum

สำหรับ Bitcoin จะใช้ “Bitcoin address” เพื่อบ่งบอกสถานที่ที่ Bitcoin เก็บและถูกส่ง เช่นเดียวกันกับ Ethereum (ETH) ซึ่งมีบัญชีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่

  • บัญชีที่ถือ ETH บัญชีประเภทนี้ เรียกว่า “Externally Owned Accounts (EOAs)” ซึ่งผู้ใช้งานสามารถโอนถ่าย หรือชำระ ETH ผ่านการเซ็นโดยใช้ Private Key
  • บัญชีที่ถือ ETH และ Smart contract บัญชีประเภทนี้มีไว้สำหรับ Smart contract โดยการเปิด Smart contract ผู้ใช้งานจำเป็นที่จะต้องส่ง ETH เข้าไปในนั้น หลังจาก Smart contract ถูกโค้ดและอัปโหลด ตัว Smart contract จะรอสำหรับการเปิดอยู่ในบัญชีนี้

ขอขอบคุณแหล่งอ้างอิงข้อมูล bitkub


เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณ รวมถึงเสนอสิทธิประโยชน์ที่ตรงตามความสนใจของคุณมากที่สุด ถ้าคุณยังใช้งานต่อไปโดยไม่ปฏิเสธคุกกี้ เราจะเก็บคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้น ทั้งนี้ คุณสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเราได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายการใช้คุกกี้

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save