เหรียญ WAN อนาคต เป็นโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนข้ามเครือข่าย ที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการโอนเหรียญต่างๆ และ สร้าง DApps สำหรับอุตสาหกรรมการเงิน ซึ่งมีตั้งแต่การลงทุนไปจนถึงบริการต่างๆแบบธนาคาร การชำระเงินและอื่นๆ
Wanchain หวังที่จะแทนที่ระบบธนาคารเดิมทั่วโลกด้วยการใช้ blockchain ด้วยเหรียญ Wancoin ซึ่งเป็นเหรียญหลักของ Wanchain
Cryptocurrencies ส่วนใหญ่ถูกมองว่าจะมาช่วยเรื่องการ Decentralize จาระบบเดิมๆ เช่นเรื่องธนาคาร Wanchain เป็นหนึ่งในโครงการที่ทุ่มเทเพื่อทำให้สิ่งนี้เป็นจริงอย่างยั่งยืน และ เพื่อประโยชน์ในการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดให้โปร่งใส ตรวจสอบได้
เหรียญ WAN อนาคต WAN คืออะไร
Wanchain เป็นเหมือนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการเงินแบบกระจายอำนาจ ที่เปิดโอกาสให้สามารถแลกเปลี่ยนทรัพย์สินที่มีมูลค่าแบบดิจิทัลได้ และ สามารถส่ง digital assets เหล่านี้ระหว่างบล็อกเชนแต่ละบล็อกเชนได้ รวมถึงการสร้าง framework สำหรับแอปพลิเคชันการเงิน คล้ายๆ กับการที่ทุกคนสามารถส่งเงินจากธนาคารหนึ่งไปอีกธนาคารหนึ่งได้ Wanchain ตั้งเป้าไว้ว่าจะส่งคริปโทเคอเรนซีจากบล็อกเชนหนึ่งไปอีกบล็อกเชนได้ ทำให้มีการพูดถึง Wanchain ว่าเปรียบเสมือน “ธนาคารแบบกระจายตัว” และ “กระเป๋าที่สามารถเก็บได้หลายๆ สกุลเงิน” นอกจากนี้ Wanchain แพลตฟอร์มยังสามารถนำมาใช้งานที่หลากหลายนอกเหนือจากการรับ และ ส่งคริปโทเคอเรนซี ได้แก่ การสนับสนุนการสร้างแอป สมาร์ตคอนแทรค และ ระบบการป้องกันการทำธุรกรรม
Wanchain เป็นเหรียญที่ fork จาก Ethereum และ มีบล็อกเชนเป็นของตัวเอง โดยมีเหรียญชื่อ Wancoin (WAN) เป็นเหรียญที่ใช้ในบล็อกเชน และ เหรียญนี้ไม่ใช่เหรียญ ERC-20
เหรียญ WAN อนาคต และ Jupiter Hard Fork
ทีมผู้พัฒนาของ Wanchain (WAN) ประกาศการ Hard Fork เพื่ออัปเกรดเครือข่ายโดยใช้ชื่อว่า Jupiter ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 เมษายน 2021 เวลาประมาณ 07:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
การอัปเกรดครั้งนี้จะทำให้ Wanchain สามารถรองรับการทำงานร่วมกับ Ethereum ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และ เป็นการเปิดใช้ฟังก์ชัน Ethereum Layer-2 solution ที่หลายๆ ฝ่ายรอคอยอีกด้วย
การ Hard Fork ครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่ออัปเกรดเครือข่าย จึงไม่มีเหรียญใหม่เกิดขึ้นแต่อย่างใด โดยฟีเจอร์ใหม่ที่จะมาพร้อมกับ Jupiter มีดังต่อไปนี้
- ทำให้ Wanchain สามารถทำงานร่วมกับ EIP-155 ของ Ethereum ได้
- เปลี่ยน Mainnet chain ID ของ Wanchain เป็น 888
- เปลี่ยน Testnet chain ID ของ Wanchain เป็น 999
- ทำให้แอปพลิเคชันบางตัวบน Ethereum สามารถย้ายไปอยู่บน Wanchain ได้ เช่น MetaMask, Remix หรือ Truffle เป็นต้น
- เปิดการใช้งานฟังก์ชัน Ethereum Layer-2 ของ Wanchain
เหรียญ WAN อนาคต ทำงานอย่างไร ?
การส่งทรัพย์สินแบบ Cross-Chain
Wanchain ทำให้สามารถส่งข้อมูลระหว่าง Wanchain และ บล็อกเชนอื่นๆ ได้ อย่างเช่น Bitcoin และ Ethereum ผู้ใช้งานสามารถส่งทรัพย์สินจากบล็อกเชนต่างๆ ไป Wanchain ได้ หรือ ส่งจาก Wanchain ไปบล็อกเชนต่างๆ ได้
การป้องกันความเป็นส่วนตัวของธุรกรรม
Wanchain สามารถป้องกันความเป็นส่วนตัวในการส่ง หรือ แลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการจะไม่เปิดเผยตัวตน โดย Wanchain ใช้ ring-signatures และ สร้างแอดเดรสแบบครั้งเดียวในการป้องกันความเป็นส่วนตัว ลายเซ็นของผู้ใช้งาน (ผู้ส่ง) จะถูกผสมกับแอคเคาต์ปลอมเพื่อทำให้ยากสำหรับการติดตาม นอกจากนี้ ธุรกรรมแต่ละธุรกรรมจะมีแอดเดรสใหม่ในแต่ละครั้งที่ทำธุรกรรม
ขยายหน้าที่
นักพัฒนาระบบจะสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันบน Wanchain ได้ตามมาตรฐาน ในขณะที่ Wanchain จะทำหน้าที่ในการบริการธุรกรรมแบบ cross-chain ระหว่างบล็อกเชน Wanchain ก็เป็นบล็อกเชนที่ทำงานด้วยตัวมันเอง นั่นแปลว่าบล็อกเชนของ Wanchain มีโทเค็น สมาร์ตคอนแทรค และ การทำธุรกรรมสมาร์ตคอนแทรคแบบส่วนตัว Wanchain ตั้งใจจะทำงานเหมือนธนาคาร มีการรับชำระ กู้ยืม การแลกเปลี่ยน และ การลงทุน โดยสามารถสรุปได้ 3 สถานการณ์ ว่า Wanchain จะทำอะไรได้บ้าง
- โปรโตคอลสำหรับ cross-chain และ บัญชีแยกประเภท
- เครื่องมือจัดการทรัพย์สิน
- แพลตฟอร์ม ICO
Consensus
คล้ายๆ Ethereum, Wanchain ใช้อัลกอริธึม Proof-of-Stake โดยโนดมีหน้าที่อยู่ 3 อย่าง เพื่อจะทำให้เครือข่ายใช้งานได้ ได้แก่
โนดตรวจเช็คธุรกรรมแบบ Cross-chain (Vouchers)
Vouchers จะได้รับเงินฝากจากค่าธรรมเนียมการโอนเมื่อธุรกรรมแบบ cross-chain ทำได้สำเร็จ โดย Vouchers จะต้องเช็คว่าธุรกรรมส่งคำร้องเข้ามานั้นถูกคอนเฟิร์ม หรือ ไม่ โดยตรวจสอบจากบล็อกเชนต้นทาง และ Wanchain ล็อกแอคเคาต์ ถ้าธุรกรรมนั้นมีข้อผิดพลาด เงินฝากในตอนแรกนั้นจะถูกถอนออก และ ธุรกรรมนั้นจะไม่ได้ถูกยืนยัน
โนดที่ตรวจสอบทั่วไป (Validators)
Validator มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเพียงเล็กน้อยในการบันทึกข้อมูลการทำธุรกรรมของ Wanchain เมื่อหลักฐานการทำธุรกรรมได้รับการยืนยัน Vouchers แล้ว Validator จะได้รับข้อมูลแล้วตรวจสอบ registry ของสินทรัพย์โดยสามารถดำเนินการได้สองแบบ ได้แก่
- ถ้ามีสินทรัพย์ใหม่ สินทรัพย์นั้นจะถูกจดทะเบียน และ เพิ่มเข้าไปใน Wanchain Registry เพื่อทำการลงทะเบียนสินทรัพย์นั้น จากนั้นจะมีการปล่อยสมาร์ตคอนแทรคสำหรับสินทรัพย์ใหม่
- ถ้าเป็นสินทรัพย์ที่จดทะเบียนแล้ว ธุรกรรมจะทำงานภายใต้สมาร์ตคอนแทรคที่มีอยู่แล้ว
โนดล็อกแอคเค้าท์ (Storemen)
Storemen เป็นโนด Wanchain ที่ถือกุญแจที่แชร์ในล็อกแอคเค้าท์ โดยใช้คีย์แชร์ในการสร้าง signature shares และ รวบรวม signature shares เพื่อทำให้ signatures สมบูรณ์ และ การทำงานต่างๆ ในล๊อกแอคเค้าท์ที่จะส่งสิ่งที่มีมูลค่าจากบล็อกเชนต้นทางไปยังล๊อกแอคเค้าท์ของ Wanchain Storemen จะออนไลน์เพื่อให้คีย์แชร์ของพวกเค้าทำงานได้ และ ได้รับค่าธรรมเนียมบางส่วน แต่ยังต้องรอคำแจ้งเตือนจาก Validators
ธุรกรรมของ Wanchain
Bitcoin Blockchain ไปยัง Wanchain Blockchain
เมย์ และ จอห์น มีบัญชีของ Bitcoin และ Wanchain โดยเมย์ต้องการส่ง 5 บิทคอยน์ไปยังจอห์น
เมย์สามารถทำธุรกรรมแบบ cross-chain ได้โดยใช้กระเป๋า Wanchain เพื่อโอนบิทคอยน์จากกระเป๋าของตน ไปให้ผู้รับก็คือจอห์นได้ โดยจอห์นจะได้รับเหรียญจาก Bitcoin Cross-chain Locked Account ของจอห์น
ผู้ตรวจสอบระบบ หรือ โนดของ Wanchain จะได้รับคำร้องขอการทำธุรกรรมแบบ cross-chain และจะทำการยืนยันธุรกรรมโดยบันทึกลงในบล็อกเชนของบิทคอยน์ และสร้างสมาร์ตคอนแทรคของโทเค็น BTC บน Wanchain ซึ่งจะมีจำนวนเท่ากับ BTC ที่ต้องการจะโอนไปให้จอห์นบน Wanchain
Wanchain Blockchain ไปยัง Bitcoin Blockchain
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อจอห์นต้องการโอน 5 BTC ให้แนนซี่?
จอห์นจะใช้กระเป๋า Wanchain ของตนในการสร้างธุรกรรมแบบ cross-chain ด้วย BTC asset คอนแทรค หลังจากได้รับคำร้องแล้ว โนดผู้ตรวจสอบจะล็อก 5 BTC ตามคำร้อง จากนั้นจะใช้ระบบการแบ่งปันความลับตามเกณฑ์เพื่อสร้างธุรกรรมของบิทคอยน์โดยใช้ Wanchain Locked Account ของจอห์น และโอนไปให้กระเป๋าบิทคอยน์ของแนนซี่ จากนั้นโนดจะยืนยันธุรกรรมของบิทคอยน์บล็อกเชน และ 5 BTC ที่ถูกล็อกในบัญชีของจอห์นจะถูกโอนออกไป โดย BTC ดังกล่าวจะถูกโอนกลับไปที่เชนต้นทาง ซึ่งในกรณีนี้คือบิทคอยน์บล็อกเชนนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก บิตคับ