สมุนไพรไทยบำรุงเลือด และ เลือด เป็นของเหลวสีแดงที่ไหลเวียนไปตามเส้นเลือดไปยังส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย เลือดทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น ขนส่งก๊าซออกซิเจน และ คาร์บอนไดออกไซด์ รักษาสมดุลของน้ำ และ เกลือแร่ ปรับระดับอุณหภูมิของร่างกาย ส่วนเม็ดเลือดขาวก็ช่วยจัดการกับเชื้อโรคที่เข้ามารุกราน รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
จะเห็นว่าสิ่งต่างๆ ที่เลือดทำได้นั้นมีความสำคัญกับร่างกายมาก ดังนั้น หากเลือดทำงานด้อยประสิทธิภาพลง จะส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอลง เจ็บป่วยได้ง่าย เราจึงควรใส่ใจดูแลบำรุงเลือดให้สมบูรณ์ เมื่อระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี ร่างกายก็แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก
ชะอม สมุนไพรไทยบำรุงเลือด
ชะอม ประกอบไปด้วยฟอสฟอรัส และ ธาตุเหล็กเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล็กเป็นส่วนประกอบของเม็ดเลือดแดง ช่วยบำรุงเลือด และ ป้องกันโรคเลือดจางได้เป็นอย่างดี ถือเป็นผักสวนครัวรั้วกินได้ที่มีประโยชน์อย่างแท้จริง
ดอกคำฝอย
ดอกคำฝอย เป็นสมุนไพรที่นิยมนำชงเป็นชาดื่ม มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรช่วยบำรุงเลือด ช่วยฟอกเลือด แก้โรคเลือดเป็นพิษ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด และ ขยายหลอดเลือด จึงทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น การแลกเปลี่ยนออกซิเจนในเส้นเลือดทำได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยสลาย และ ป้องกันการจับตัวกันของลิ่มเลือด บำรุงหัวใจ ทำให้หัวใจแข็งแรง และ สูบฉีดเลือดได้ดี
กานพลู
กานพลู สมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยามากมาย มีกลิ่นหอม มีส่วนช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก แก้เลือดเสีย ช่วยบำรุงเลือด ช่วยละลายลิ่มเลือด และ ลดการจับตัวเป็นก้อนของเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น กานพลูนำมาเป็นยาได้หลายขนาน ทั้งทำยาหอม บดเป็นผงผสมกับตัวยาชนิดอื่นๆ หรือ สกัดเอาน้ำมัน เป็นต้น กานพลูเหมาะสำหรับผู้หญิงที่กำลังให้นมบุตรเพราะจะทำให้มีน้ำนมมากขึ้น แต่หากกำลังตั้งครรภ์อยู่ควรหลีกเลี่ยง หากต้องใช้ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
สมุนไพรไทยบำรุงเลือด ตังกุย
ตังกุย หรือ โกฐเชียง ตามตำรับยาไทยโกศเชียง คือ ส่วนที่เป็นราก มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รสหวานอมขม เผ็ดเล็กน้อย ตังกุยเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อนเล็กน้อย มีสรรพคุณโดดเด่น คือ ช่วยฟอกเลือด บำรุงเลือด ตังกุยอุดมไปด้วยวิตามินบี 12 ซึ่งช่วยรักษาภาวะเลือดจาง เลือดพร่อง หรือ เลือดน้อย ผู้ที่มีเลือดน้อย ตัวจะเหลือง ปลายนิ้ว และ เล็บจะซีด หากกินตังกุยบ่อยๆ จะช่วยให้เลือดกระจายตัวได้ดี ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น ตัวจะซีดน้อยลง ดูมีเปล่งปลั่ง และ มีน้ำมีนวล นอกจากนี้ ตังกุยยังใช้เป็นยาสำหรับผู้หญิง แก้อาการปวดท้องประจำเดือน ช่วยขับเลือด ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ ช่วยกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวดี มดลูกเข้าอู่เร็วหลังคลอด ลดอาการร้อนวูบวาบ และ หงุดหงิดจากวัยทอง จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นยาบำรุงร่างกายสำหรับสาวๆ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสรรพคุณที่ช่วยขับเลือด และ กระตุ้นการบีบตัวของมดลูก คุณผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ไม่ควรกินตังกุย
ขิง
เป็นพืชอีกชนิดที่ใช้ประโยชน์จากหัว หรือ แหง้จัดเป็นสมุนไพรพื้นบ้านขิงนั้นสามารถทานได้ทั้งสด และ ที่นำมาแปรรูปเป็นอาหารมีชื่อที่จัดเป็นวัตถุดิบสำคัญในยาสมุนไพรทั้งในอินเดียจีน และ ไทยเป็นเวลาที่นานหลายปี
ขิง มีรสชาตที่เผ็ดร้อน จึงช่วยในการลดความดันเลือดได้เป็นอย่างดี และ ยังช่วยบำรุงการไหลเวียนของเลือดได้อีกด้วย เป็นสมุนไพรซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการแพทย์แผนโบราณในอินเดียไทย และ จีนเป็นเวลาหลายพันปีสามารถลดความดันโลหิต และ เพิ่มการไหลเวียนได้อีกด้วยนะ
สมุนไพรไทยบำรุงเลือด สมุนไพรอื่นๆ
- แคนา เป็นพืชที่มักพบตามทุ่งนา ดอกรูปแตรสีขาว ส่วนที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงเลือด คือ ส่วนราก
- ดอกจันทน์ เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อนเล็กน้อย และ สร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย ช่วยบำรุงเลือดลม จัดเป็นสมุนไพรชั้นยอดของไทย ซึ่งมักถูกนำมาเป็นส่วนผสมในยาตำรับโบราณหลายตำรับเลยทีเดียว
- คำไทย เป็นสมุนไพรที่น้อยคนนักจะรู้จัก แต่ว่ามีประโยชน์มากๆ ดอก และ รากคำไทยมีสรรพคุณช่วยบำรุงเลือด ช่วยรักษาโรคโลหิตจางโดยนำมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม ส่วนเปลือกลำต้นนำมาต้มดื่มช่วยลดความดันโลหิต นอกจากนี้ ยังช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงสมอง และ บำรุงร่างกายอีกด้วย
- ลูกจัน หรือ ผลอินจัน เป็นผลไม้ที่หาได้ยากมากๆ ในปัจจุบัน ลูกอินจันมีลักษณะกลมแป้น สีเหลืองมีกลิ่นหอม รสฝาดหวาน มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ บำรุงธาตุ บำรุงเลือด ลดอาการปวดมดลูก ทั้งยังช่วยขับลม แก้จุกเสียดแน่นท้อง แก้อาการอาหารไม่ย่อย และลดการปวดท้องจากท้องเสีย ท้องร่วง เป็นต้น
- ทับทิม ผลไม้มงคล มีเปลือกสีเหลืองอ่อน ๆ มีเมล็ดภายในสีแดงอมชมพู มีรสชาตหวานชื่นใจ ในทับทิมนี้จะมีอุดมไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระ อีกหลายชนิดที่มีประโยชน์ ต่อทางร่างกายภายในอย่างหลอดเลือด และ ช่วยที่จะดูแลผิวพรรณให้ดูสดใสมากยิ่งขึ้น ทับทิมสามารถทานได้ทั้งผลดิบ เครื่องดื่ม หรือ นำไปสกัด
- หัวหอม หัวหอมซึ่งโดยมากมักเป็นหอมแดง หรือ หอมแขก ที่มีกลิ่นฉุน เป็นเครื่องเทศที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ ทั้งช่วยในการปรับสมถภาพของการไหลเวียนของหลอดเลือดดำ และ แดง ยังช่วยเสริมให้มีการขยายตัวของหลอดเลือดได้ดี ช่วยดูแลการทำงานของหัวใจด้วยนอกจากนี้ หัวหอม ยังมีสรรพคุณที่ช่วยต้านการอักเสบได้ด้วย
- ขมิ้น เป็นสมุนไพรที่มีหัว หรือ เรียกว่า แง๊ง มีลำต้นไม่ใหญ่มากประมาณนิ้วก้อย มีใบยาวสีเขียวอ่อน ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งศาสตร์ทางการแพทย์ จีน และ ไทย สรรพคุณของขมิ้นการไหลเวียนของ เปิดหลอดเลือด และ ปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต ยาวไปถึงช่วยดูแลระบบลำไส้ และ ยังมีส่วนในการบรรเทาอาการอักเสบได้
- อบเชย เครื่องเทศอีกชนิด ที่มีช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดเป็นอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยรสชาติร้อน และ อุ่น โดยมากเรามักพบอบเชยที่เป็นส่วนผสมของ อาหาร และ เครื่องดื่ม อบเชยจะช่วยทำให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือดที่ดี จึงทำให้ห่างจากการเป็นโรคหัวใจได้ และ ยับลดโอกาสของการเกิดอาการของหลอดเลือดตีบตันได้
- กระเทียม เครื่องเทศอีกชนิดที่ช่วยเสริมให้อาหารมีรสชาติที่ชวนกิน กระเทียมสดที่เป็นกลีบยังช่วยลดการเลียนของอาหารได้ และช่วยดับกลิ่นคาวได้ กระเทียมนี้มีกำมะถัน และ สารอัลลิซิน ที่มีส่วนช่วยในการไหลเวียนของเลือด และ บำรุงหัวใจให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระเทียมมีความสามารถที่จะช่วยลดความดันของเลือดได้ด้วยนะ ปัจจุบันกระเทียมไม่ใช่มีแค่กลีบสดไว้ให้รับประทานเท่านั้นยังมีที่ทำการสกัดเป็นเม็ดที่ช่วยให้ทานได้ง่ายเพื่อเป็นอาหารเสริมด้วยอีกนะ
คำแนะนำในการบำรุงเลือด
- เหล็ก เป็นส่วนประกอบสำคัญในการเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง มีอาหารบางประเภทที่เมื่อกินเข้าไปแล้วจะเข้าไปขัดขวางกระบวนการดูดซึมธาตุเหล็ก คือ อาหารที่มีแคลเซียมสูง อาหารที่อุดมไปด้วยไขมัน อาหารที่มีสารเทนนินสูง อย่างชา กาแฟ เป็นต้น ดังนั้น หากกินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงเข้าไปแล้ว อยากให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กไปแบบเต็มๆ ควรกินห่างจากอาหารที่กล่าวถึงไปเมื่อครู่สักประมาณครึ่งชั่วโมง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เลือดเป็นของเหลว ดังนั้น ส่วนประกอบหลักจึงเป็นน้ำนั่นเอง การดื่มน้ำอย่างเพียงพอเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้การขจัดสารพิษในเลือดเป็นไปได้ด้วยดี ทั้งยังช่วยให้เลือดไม่เหนียวข้น จึงทำให้เลือดสะอาด และ ไหลเวียนได้ดี
บทสรุป
พืชสมุนไพรส่วนใหญ่หาได้ทั่วไปตามท้องตลาดบางชนิดหาได้ยากขึ้น แต่หากอยากบำรุงเลือดให้มีการทำงานที่สมบูรณ์ สามารถเลือกซื้อสมุนไพรบำรุงเลือดมาทานได้ ที่สำคัญควรระมัดระวังอาหารที่จะเข้าไปขัดขวางระบบการดูดซึมธาตุเหล็ก และ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ หากทำอย่างถูกต้องต่อเนื่อง รับรองว่าระบบไหลเวียนเลือดของเราจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างแน่นอน
จากที่เล่าสู่กันฟังนี้ นอกจากการเลือกทานผัก ผลไม้ และ สมุนไพรแล้ว ยังต้องทำการออกกำลัง ทำการควบคุมน้ำหนัก เลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และ สิ่งคัญอีกสองอย่าง คือ ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ และ พักผ่อนอย่างเพียงพอด้วย จะยิ่งทำให้สุขภาพกายภายนอก และ ภายในนั้นดีตามไปด้วย