จากบทความที่แล้วทาง indydiary ได้แนะนำเรื่อง การใช้งาน แอฟฟลิเคชั่น นับรอบวันตกไข่ สามารอ่านเพิ่มเติมได้ที่ แอพนับวันตกไข่ ตัวช่วยคนอยากมีลูก บทความนี้ทาง indydiary จะมาแนะนำการใช้ ชุดตรวจการตั้งครรภ์ ว่ามีหลักการซื้อ และ หลักการตรวจยังไงที่ถูกต้อง โดยบทความนี้ได้เอาบทความอ้างอิงมาจาก sanook.com สามารถไปอ่านเพิ่มเติมได้ คุณแม่มือใหม่ หัดใช้ “ที่ตรวจครรภ์” ให้ถูกต้อง
หากประจำเดือนของคุณแม่มือใหม่ ไม่มา ก่อนที่จะไปพบคุณหมออยากแรกที่ทุกคนอยากทำ คือ การตรวจการตั้งท้องด้วยตัวเองโดยใช้ ชุดตรวจการตั้งครรภ์ ซึ่งในปัจจุบันที่ตรวจครรภ์นี้ก็มีจำหน่ายอยู่ทั่วไปตามร้านเภสัชกร เราจึงนำข้อมูลมาแชร์ แต่ทาง indydiary ย้ำว่าควรจะไปปรึกษาแพทย์ ดีที่สุด
ชุดตรวจการตั้งครรภ์ ด้วยตัวเอง
ที่ตรวจครรภ์ หรือชุดตรวจครรภ์ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง โดยเป็นการทดสอบเพื่อหาฮอร์โมน HCG (Human chorionic gonadotropin) ในปัสสาวะของคุณแม่ ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะหลั่งออกมาจากรกและเริ่มผลิตหลังจากที่เกิดการปฏิสนธิไปแล้วประมาณ 6 วัน และจะขึ้นสูงที่สุดในช่วง 8 – 12 สัปดาห์
การตรวจหาด้วยตัวเองโดยใช้ที่ตรวจครรภ์นี้จะมีความแม่นยำถึงร้อยละ 90 ทั้งจะยิ่งแม่นยำขึ้นไปอีกในรายที่มีการขาดประจำเดือนตั้งแต่ 10 – 14 วันขึ้นไป โดยปกติ ในชุดทดสอบการตั้งครรภ์จะมีอุปกรณ์มาให้เสร็จสรรพ แต่จะมีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบ ดังนี้
ชุดตรวจการตั้งครรภ์ แบบแถบจุ่ม
เราจะเรียกกันว่า แบบแถบจุ่ม หรือ Test Strip ในชุดทดสอบนั้นจะประกอบไปด้วย แผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ (แผ่นตรวจครรภ์) และ ถ้วยตวงปัสสาวะ (อาจมีหรือไม่มีก็ได้)
วิธีการใช้นั้น ให้เราเก็บน้ำปัสสาวะลงไปในถ้วยตวง จากนั้นนำแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ที่มีลูกศรชี้ลงจุ่มลงไปในน้ำปัสสาวะ รอ 3 วินาที แต่ต้องระวังไม่ให้ปัสสาวะเลยขีดที่แผ่นกำหนด หรือสูงเกินกว่าขีดของลูกศรในแผ่นทดสอบ เมื่อครบ 3 วินาทีแล้ว ให้นำแผ่นทดสอบออกจากน้ำปัสสาวะ และถือไว้ในแนวนอน (แนะนำให้วางไว้บนพื้นผิวที่แห้งสนิทเท่านั้น) รออ่านผลการตั้งครรภ์หลังเวลา 1 – 5 นาที ทางที่ดีควรรอให้ครบ 5 นาที จะได้แน่ใจว่าชุดทดสอบนี้แสดงผลได้อย่างถูกต้อง
ข้อดีของที่ตรวจครรภ์นี้ คือ มีราคาถูก แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้ปัสสาวะสูงกว่าขีดที่กำหนด เพราะจะทำให้แผ่นทดสอบเสื่อมสภาพได้
ชุดทดสอบตั้งครรภ์ แบบตลับ หรือแบบหยด
แบบตลับ หรือ แบบหยด (Pregnancy Test Cassette) ประกอบไปด้วย ตลับทดสอบการตั้งครรภ์ , ถ้วยตวงปัสสาวะ และหลอดหยดสำหรับดูดน้ำปัสสาวะ
วิธีการใช้งาน ให้เก็บน้ำปัสสาวะลงในถ้วยตวง จากนั้นให้นำหลอดหยดดูดน้ำปัสสาวะเข้าไปในปริมาณที่พอเหมาะ แล้วจึงหยดน้ำปัสสาวะลงบนตลับทดสอบประมาณ 3 – 4 หยด วางไว้บนพื้นราบ เสร็จแล้วให้ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีจึงอ่านผลการทดสอบ
ข้อดีของการใช้ที่ตรวจครรภ์นี้ เมื่อเป็นแถบตรวจจะช่วยลดโอกาสที่แผ่นทดสอบจะเสื่อมสภาพจากการดูดซับน้ำปัสสาวะของชุดทดสอบได้
ชุดตรวจตั้งครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน
แบบปัสสาวะผ่าน หรือ Pregnancy Midstream Tests ในชุดจะมีแค่เพียงแท่งตรวจสอบการตั้งครรภ์
วิธีใช้ คือ ให้ถอดฝาครอบออกพร้อมกับถือแท่งทดสอบโดยให้หัวลูกศรชี้ลง จากนั้นให้ปัสสาวะผ่านบริเวณที่ดูดซับน้ำปัสสาวะซึ่งจะอยู่ต่ำกว่าลูกศร ปัสสาวะผ่านให้ชุ่มประมาณ 5 นาที จากนั้นให้ถือ หรือวางแท่งทดสอบการตั้งครรภ์ไว้ในแนวราบ รออ่านผลได้ตั้งแต่ประมาณ 30 วินาทีเป็นต้นไป เพื่อความแน่นอน แนะนำว่าให้รอเวลาประมาณ 3 – 5 นาที จะเห็นผลได้ชัดเจนมากที่สุด
ข้อดีของการใช้ที่ตรวจกันแบบนี้ คือ สามารถใช้งานได้สะดวกมากกว่า 2 ชนิดก่อน เพราะไม่ต้องมีการตวงน้ำปัสสาวะรอไว้ในถ้วย จึงช่วยให้ลดขั้นตอนในการทดสอบได้ แต่ข้อเสียของมันจะอยู่ที่ราคาที่สูงกว่าทั้ง 2 แบบแรก
การอ่านผลที่ตรวจครรภ์
โดยปกติแล้ว ในกล่องของชุดทดสอบการตั้งครรภ์จะมีวิธีการใช้งานและวิธีการอ่านค่า พร้อมกับแนบรูปภาพตัวอย่างมาให้ ซึ่งส่วนมากการอ่านผลที่ให้ความแม่นยำจะต้องอ่านภายใน 5 นาที หากทิ้งไว้นานกว่านั้นอาจทำให้มีอีกขีดเกิดขึ้นมาได้ และอาจจะไม่ใช้การตั้งครรภ์ หรือเป็นค่าที่เชื่อถือไม่ได้แล้ว ขีด C คือ Control Line ส่วนขีด T คือ Test Line สำหรับรายละเอียดของการตรวจจะมีดังนี้
- ตรวจแล้วขึ้น 1 ขีด โดยขีดจะขึ้นที่ C เพียงอย่างเดียว ได้ผลแปลว่า น่าจะไม่ตั้งครรภ์ หมายความว่า ไม่ตั้งครรภ์ หรืออาจจะตั้งครรภ์แต่ยังตรวจไม่พบ
- ตรวจแล้วขึ้น 2 ขีด หรือขึ้นเป็น 2 ขีดจางๆ โดยขีดจะขึ้นที่ C และ T คือ ได้ผลบวก แปลว่า น่าจะมีการตั้งครรภ์ หากขีดขึ้นที่ T จางๆ แนะนำว่าให้รออีกสักประมาณ 2 – 3 วันแล้วตรวจใหม่ และใช้เป็นชุดตรวจของยี่ห้อใหม่ก็น่าจะดีมาก
- ตรวจแล้วไม่ขึ้นแถบสี หรือไม่ขึ้นสักขีด หรือขึ้น 1 ขีดบนตัว T คือ อ่านค่าไม่ได้ แปลว่า ‘ชุดทดสอบการตั้งครรภ์เสีย’ อาจเกิดความผิดพลาดในขั้นตอนของการผลิต , การเก็บไม่ถูกวิธี , การใช้ปัสสาวะเก่า หรือชุดทดสอบหมดอายุ ถ้าตรวจแล้วผลที่แสดงไม่ขึ้นสักขีดก็เท่ากับว่าการตรวจในครั้งนั้นใช้ไม่ได้ จะต้องทำการตรวจใหม่อีกครั้ง
สรุปการซื้อที่ตรวจมาตรวจเอง
การซื้อที่ตรวจมาตรวจเอง ถึงจะให้ผลแม่นยำมากถึง 90% แล้วแต่ละแบบของการใช้ชุดตรวจ ตามกำลังทรัพย์ หรือ ความสะดวกของ คุณแม่มือใหม่เลย แต่ทาง indydiary แนะนำว่าการไปพบ สูตินารีแพทย์ เป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะเราจะได้ตรวจอย่างถูกต้อง และ ได้รับข้อมูลจากแพทย์ อย่างถูกต้อง